ตอนที่ 11 : พิสูจน์คุณธรรม

          ท่านผู้อ่านทุกท่าน จะอยู่ในวัยใดก็ตาม ในการที่จะดำเนินชีวิตด้วยความรุ่งเรืองนั้น จงนึกเสมอว่าคุณธรรม ๕ ประการคือ “ความขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ และ กตัญญู” เป็นคุณธรรมสำคัญ

                    ขยัน  ต้องขยันจริง ๆ ไม่กลัวแดดกลัวฝนกลัวลม “ขยันไม่ขยาด”

                    อดทน  ต้องอดทนจริง ๆ เรียกว่า “มีความเพียร”

                    ประหยัด  ต้องประหยัดจะได้มี  ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ มีเนื้อมีหนัง ถ้าประชันก็หมดเนื้อหมดตัว  หมดเนื้อหมดหนัง

                    ซื่อสัตย์ อยู่ที่ไหนก็ตามต้องฝังความซื่อสัตย์ “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน”

                    กตัญญู  ต้องมีความกตัญญู รู้คุณคนรู้คุณของ อยู่ที่ไหนก็ตามต้องกตัญญูต่อที่นั้นแม้แต่แผ่นดินถิ่นอาศัย

          และในฐานะที่เป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เมื่อจะรักใครเลี้ยงใครต้องสั่งสมและสั่งสอนให้เขายึดมั่นในคุณธรรม ๕ ประการนี้ และเมื่อจะมอบอะไรให้แก่ใครทั้งเงินทองหน้าที่การงานด้วยความไว้วางใจ ก็จงดูคนที่มีคุณธรรม ๕ ประการคือ ขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ กตัญญู

          เหมือนกับที่คหบดีจีนท่านหนึ่งซึ่งภรรยาท่านตาย ท่านมีลูกสิบคน ท่านก็คิดว่า “เอ!”...มีลูกแล้วลูกจะต้องเลี้ยงเรา จะทำกิจแทนเรา จะรักษาวงศ์ตระกูล จะรักษาทรัพย์มรดก เมื่อเราตายไปแล้วจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แต่ลูกเราสิบคน” ท่านไม่ได้หวังลูกคนโตว่าจะทำให้หรอก  ท่านก็เลยตั้งเกณฑ์พิสูจน์คุณธรรม ๕ ประการ โดยให้ลูกไปปลูกถั่วแดงคนละต้น กระถางเท่ากัน  ถั่วเม็ดเท่ากัน และท่านบอกว่า “อีก ๑๕ วันให้เอาผลงานมาส่ง” และท่านก็บอกว่า “พ่อจะตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ปกครองทรัพย์มรดกของพ่อต่อไปและจะเป็นผู้บริหารวงศ์ตระกูลและพี่น้องต่อไป”

          สิบห้าวันผ่านไป ลูกทั้งสิบคนซึ่งเจ้าคนเล็กก็ประมาณเก้าขวบสิบขวบ คนโตก็ยี่สิบเอ็ดยี่สิบสองปี  ก็เอาผลงานมาส่งมายืนเรียงแถวกันเหมือนพระรับบิณฑบาต

          ท่านคหบดีจีนท่านนี้ท่านก็ดูผลงาน เจ้าคนโตนี่ต้นถั่วมันสูง และนอกนั้นอีกแปดคนก็สูงลดหลั่นกันไป แต่คงไม่ใช่ตามลำดับ ทุกคนก็มองด้วยความหวังว่าตัวจะได้ส่วนแบ่ง เจ้าพี่คนโตก็คิดว่าตัวจะได้การบริหารวงศ์ตระกูล น้องทุกคนก็คิดในใจว่าเราจะได้ส่วนแบ่งตามความโตความเตี้ยของต้นถั่ว แต่พอเดินไปถึงเจ้าคนสุดท้าย ในกระถางเขาไม่มีถั่ว แต่เขายืนก้มหน้ารดน้ำถั่วของเขา คือใช้น้ำตารด เขาร้องไห้ ครั้นเมื่อคหบดีจีนท่านนี้ท่านไปจับตัวเขา เขาก็ร้องไห้และเกาะเท้าพ่อและพูดว่า “คุณพ่อครับ ลูกเป็นคนไร้ความสามารถ ไม่สมควรที่จะได้รับสมบัติของคุณพ่อ อย่านึกถึงลูกเลย จงให้พี่ ๆ ทั้งเก้าคนเถอะ”

          คหบดีจีนท่านนี้ท่านยิ้ม ประคองลูกคนเล็กให้ลุกขึ้นมา แล้วท่านก็บอกว่า “เอาล่ะ พ่อขอประกาศว่า ถ้าพ่อเป็นอะไรไปล่ะก็ พ่อขอมอบการบริหารทรัพย์สินและวงศ์ตระกูลให้กับลูกคนเล็ก”

          ไอ้เก้าคนมันประท้วงใหญ่ว่าพ่อลำเอียง คหบดีจีนท่านนี้ท่านบอกว่า “ใครประท้วงอะไรประท้วงมา” พอประท้วงเสร็จแล้ว ท่านก็บอกว่า...“แต่พ่อก็มีเหตุผล เหตุผลของพ่อก็คือว่าพ่อไม่สามรถไว้วางใจลูกทั้งเก้าคนของพ่อได้ เพราะลูกเก้าคนของพ่อเก่งเหลือเกิน เก่งที่ปลูกถั่วที่พ่อลวกน้ำร้อนแล้วให้ขึ้นได้ ลูกเก่งมาก พ่อจึงไว้วางใจไม่ได้”    

          ท่านทั้งหลายคหบดีจีนท่านนี้ท่านคิดจะลองลูกท่าน ถั่วที่ไหนก็มีในเมืองจีน ถั่วแดงน่ะเยอะแยะไป ไอ้คนโตมันก็คิดง่าย ๆ “โธ่เอ๊ย !...อีกสิบวันถั่วเหมือนถั่วเอามายัดใส่กระถางพ่อจะไปรู้อะไร” แต่นี่คือพ่อ

          เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายล่ะในฐานะเป็นพ่อแม่ เป็นพ่อบ้าน เป็นพ่อเมือง ท่านจะไม่พิสูจน์ความขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ กตัญญูของลูกน้องบ้างหรือ ถ้าท่านไม่พิสูจน์ล่ะก็ ความหายนะเริ่มเข้ากล้ำกรายมาสู่ครอบครัวและสถานที่ทำงานของท่านแล้ว ต้องระวัง

 

                                                                   พระเทพปฏิภาณวาที

                                                                        “เจ้าคุณพิพิธ”

 

 


อ่าน : 0

แชร์ :


เขียนความคิดเห็น