ราคารวม : ฿ 0.00
ขณะที่เด็กชายใฝ่ดีกำลังทำความสะอาดบ้านของตนเองอยู่ เด็กหญิงพอเพียงก็วิ่งมาหา
เด็กชายใฝ่ดีจึงทักขึ้น....
ด.ช.ใฝ่ดี : สวัสดีจ้ะ...พอเพียง
ด.ญ.พอเพียง : สวัสดีจ้ะใฝ่ดี วันนี้พอเพียงจะชวนใฝ่ดีไปเล่นซ่อนแอบกัน
ด.ช.ใฝ่ดี : ใฝ่ดีคงไปด้วยไม่ได้หรอก เพราะต้องทำความสะอาดบ้านให้เสร็จก่อน
ด.ญ.พอเพียง : ไว้ค่อยกลับมาทำไม่ได้หรือ? ไปเล่นกับพอเพียงก่อนนะๆ
ด.ช.ใฝ่ดี : ถ้าพอเพียงอยากให้ใฝ่ดีไปเล่นด้วย ต้องรอก่อนสิ
ด.ญ.พอเพียง : ไม่ ต้องไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นโกรธนะ ร้องไห้อีกด้วยล่ะ...ฮือ..ฮือ...
ด.ช.ใฝ่ดี : พอเพียงยังจำได้ไหมที่หลวงตาเคยสอนเรื่องการมีเหตุผลไว้ว่าอย่างไร ?
ด.ญ.พอเพียง : ลืมแล้ว หลวงตาสอนตั้งเยอะแน่ะ ...ฮือ...ฮือ...
ด.ช.ใฝ่ดี : ไม่ยาก... ถ้าอย่างนี้ต้องลากไปหาหลวงตา
ด.ช.ใฝ่ดี : หลวงตาครับ สอนพอเพียงหน่อยเถอะครับ ผมยังไปเล่นด้วยไม่ได้เธอก็เอาแต่งอนและร้องไห้ครับ
หลวงตา : หนูพอเพียงไม่ต้องนั่งน้ำตาไหลหรอก ใฝ่ดีเขาต้องทำงานตามที่หลวงตาเคยสอนว่า เด็กต้องฝึกหัดความรับผิดชอบ หนูควรดีใจนะลูกที่มีเพื่อนที่รับผิดชอบ ไม่ควรน้อยใจ โกรธ ตัดพ้อต่อว่า ถ้าใฝ่ดีทิ้งงานบ้านมาเล่นก่อน งานก็คั่งค้าง
หลวงตา : พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า “อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง = การไม่ทิ้งการงานให้คั่งค้าง เป็นมงคลอันสูงสุด”
: คนเรานะ ถ้ามีงานที่ต้องทำแต่ทิ้งไว้ ถึงไปเล่นก็เล่นไม่สนุกเต็มที่ จิตใจจะมีกังวล พอเพื่อนเล่นไม่สนุก เราก็จะสังเกตเห็นแล้วเราก็จะเบื่อ
: ทางที่ดีพอเพียงควรช่วยใฝ่ดีทำงานบ้านให้เสร็จ จะได้เป็น “สองแรงแข็งขยัน” พ่อแม่ใฝ่ดีซึ่งรักหนูอยู่แล้วก็จะรู้สึกรักยิ่งขึ้น เหมือนว่ามีทั้งลูกชายแถมยังได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
หลวงตา : คนเราจะคบกับใครต้องมีน้ำใจกับคนนั้น การมีน้ำใจคือเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าเอาใจเราไปใส่ใจเขา และทุกคนต้องมีเหตุผลและเป็นคนมีความรับผิดชอบ คนมีเหตุผลและเป็นคนรับผิดชอบนั้น ต้องมีวิธีปฎิบัติต่อตัวเอง และ ต่อคนที่ตนเองคบหาสมาคม คือ...
- รู้หน้าที่ของตน
- รู้งานของคนอื่น
- อย่าฝืนใจเขา
- อย่าเอาแต่ใจตัว
- อย่าเมามัวในการเล่นจนลืมหน้าที่
- มีความหวังดีต่อเพื่อน
- ช่วยเตือนสติยามพลาดพลั้ง
- เป็นกำลังใจให้ในการทำหน้าที่ให้สำเร็จ
หลวงตา : เอ้า...นี่ผ้าเช็ดหน้า เช็ดน้ำตาแห่งความแสนงอน และน้ำตาแห่งความน้อยใจให้แห้ง ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้หลวงตาให้หนูพอเพียงเช็ดหน้า ๒ หน้า คือ
หลวงตา : ไปเถอะลูก ไปช่วยใฝ่ดีทำงานบ้านให้เสร็จแล้วค่อยเล่นซ่อนหา แต่ว่าเขาห้ามเล่นซ่อนหาเวลาใกล้ค่ำที่เรียกว่า “โพล้เพล้” เพราะเป็นเวลาผีตากผ้าอ้อม เดี๋ยวผีมาเล่นซ่อนหาด้วย แล้วจะหากันไม่เจอจนถึงพระอาทิตย์สว่าง เล่นซ่อนหาอย่าให้เกิน ๕ โมงเย็นนะ เพราะตอนหลวงตาเป็นเด็กวัดเล่นซ่อนหาที่ศาลาการเปรียญ ปรากฎว่าเด็กคนหนึ่งหายไปไม่มีใครพบ ไปพบตอนเช้านั่งแอบเสาศาลา นั่งกอดเสาแน่นเลย เพราะผีมันมาเล่นด้วย พูดแล้วยังขนลุกอยู่เลย เรื่องนี้หลวงตาเห็นมากับตา พบมากับตัวเอง
หลวงตา : เอ้า...ไปช่วยกันทำงาน แล้วอย่าเล่นให้ไกลบ้านนะลูกนะ
ด.ช.ใฝ่ดี : พอเพียงเข้าใจรึยังว่าทำไมคนเราต้องมีเหตุผล
ด.ญ.พอเพียง : จ้ะ พอเพียงเข้าใจแล้ว ต่อไปนี้จะทำตัวให้ดีและมีเหตุผลกับทุกคนเลย
ด.ช.ใฝ่ดี : ดีจ้ะ งั้นรอก่อนนะ ให้ใฝ่ดีทำงานเสร็จก่อนแล้วค่อยไปเล่นกันนะ..!
ด.ญ.พอเพียง : พอเพียงช่วยด้วย แต่อย่าลืมจ่ายค่าแรงด้วยนะ ขอกินข้าวฝีมือแม่ใฝ่ดีหนึ่งมื้อ ตกลงไหม ?
ด.ช.ใฝ่ดี : โธ่...นึกว่าจะช่วยทำเฉย ๆ ที่แท้ก็มีแผน
ด.ญ.พอเพียง : ผลพลอยได้หรอกจ้ะ...ใฝ่ดี !
พระเทพปฏิภาณวาที
“เจ้าคุณพิพิธ”
แชร์ :
เขียนความคิดเห็น