ตอนที่ 187 : หายนะเพราะอาย...ยอมตายเพราะกลัวขายขี้หน้า

เสียงนักการเมืองคนหนึ่งในระดับชาติ พูดกับบรรดาลูกน้องที่เป็นหัวคะแนนว่า...

      “พวกมึงไปดำเนินการให้เต็มที่ งานนี้กูต้องชนะเท่านั้น ไอ้นั่นมันนักการเมืองหน้าใหม่ มันจะมาสู้อะไรกับกู... กูเป็นถึงอดีตรัฐมนตรี ไปจัดการ กระจายคนไป”

ลูกน้องคนหนึ่งท้วงขึ้นว่า...

       “ท่านครับ ผมพิจารณาแล้วเห็นว่าคราวนี้ท่านไม่ควรลงสมัคร เพราะดูเหมือนว่าประชาชนจะเลือกฝ่ายนั้นมากกว่า ถึงเขาจะเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ แต่ดูเขาสดกว่านะครับท่าน ผมเกรงว่า....” ไม่ทันที่ลูกน้องคนนี้จะพูดจบ เสียงนักการเมืองระดับเจ้าพ่อประจำจังหวัดและระดับรัฐมนตรีก็พูดด้วยเสียงอันดัง เกรี้ยวกราดว่า...

       “มึงหุบปากแล้วก็ไสหัวไปจากที่นี่ได้เลย ไอ้สถุล ! มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร? งานนี้ถ้ากูแพ้ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กูอาย กูเจ็บ กูฉิบหายเท่าไรไม่ว่า แต่กูเสียหน้าไม่ได้ ขอให้พวกมึงจงจำใส่กบาลไว้ ไปดำเนินการเร็ว”....

        ผลสรุปก็คือ นักการเมืองระดับเจ้าพ่อจังหวัด อดีตรัฐมนตรี ก็พ่ายแพ้การเลือกตั้ง สิ้นเนื้อประดาตัว อยู่บ้านเมียไม่เคยเรียกว่าคุณพี่ หลาน ๆ ไม่เรียกว่าคุณปู่ คุณตา เข้าไปแวะเวียนในสภาไม่มีใครเรียกว่า ฯพณฯ รัฐมนตรี

ปิดฉากนักการเมืองที่มีภาษิตว่า....

        “ฉิบหายไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้”

-----------------------------------------------

 

มีเสียงผู้หญิงผู้ชายทะเลาะกันในห้องคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นคอนโดฯ เช่า ...เสียงผู้หญิงร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง แล้วตะเบ็งเสียงว่า....

         “ถ้าไม่ยอมฉันเรื่องนี้ ฉันจะกระโดลงไปตายเสียให้มันพ้น ๆ”

เสียงผู้ชายพูดด้วยความคั่งแค้นและถากถาง ว่า...

         “มึงขู่กูกี่ครั้งแล้ว กูไม่เห็นมึงโดดสักครั้ง พูดเท่าไร ๆ ก็ไม่ยอมฟัง กูก็เบื่อเต็มที คำก็กินยาตาย คำก็ผูกคอตาย คำก็โดดตึกตาย เอาซิวะ ! ให้มันจบสิ้นกันสักชาติหนึ่งเถอะ กูก็เบื่อเต็มทีแล้วกับคำขู่ กูอยากรู้ว่าใครกันที่มันแน่จริง ๆ”

เสียงผู้หญิงพูดด้วยความขมขื่น ว่า...

         “อย่านึกว่าคนอย่างฉันไม่ทำนะ ฉันจะพิสูจน์ให้แกเห็นว่าฉันมันคนจริง ฉันไม่ใช่ขู่เฉย ๆ จบสิ้นกันที เมื่อทุกอย่างไม่เข้าใจกัน อย่าลืมนะว่าแกท้าฉัน จำไว้...ฉันจะอาฆาต จองล้างจองผลาญแกทุกภพทุกชาติ ฉันตายแกจะหาความสุขไม่ได้เลยในชาตินี้”...

   จบคำพูด เธอผู้นี้ก็วิ่งไปทางหน้าต่างคอนโดฯ ปีนหน้าต่างแล้วโดดลงไป ร่างของเธอลอยลิ่วจากชั้นที่ ๘ ร่างลอยลงสู่เหล็กดัดอันแข็งและแหลมคมของกำแพงคอนโดฯ เสียงหวีดร้องสุดท้ายด้วยความปวดร้าวและเจ็บปวด แล้วเธอก็สิ้นใจ

ปิดฉากความไม่เข้าใจ และการท้าทายของคนรักกัน

          “เธอตายเพราะเธอเสียใจ”

          “เธอตายเพราะเธออับอาย”

          “เธอตายเพราะถูกเย้ยหยัน”

-----------------------------------------------

การเมืองในประเทศไทยของเรา “สู้กันบนทิฏฐิ วิกฤติเพราะคำว่าศักดิ์ศรี” มีพรรคพวกมีสตางค์ แต่ขาดความยั้งคิดยึดถือภาษิตว่า “ลูกผู้ชายฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้” ลูกผู้ชายทุกฝ่ายจึงพาทั้งลูกผู้ชายและลูกผู้หญิง รวมทั้งลูกเด็กเล็กแดง ออกมาสู้กัน ฉิบหายขายตนตายกันเกลื่อน นอนกันกลางดินกินกลางถนนเหมือนผีป่าช้าแตก มองเห็นแล้วให้นึกถึง “รามเกียรติ์” เพราะ นางสีดาคนเดียว ทศกัณฐ์บ้ากามพระรามหวงเมีย กองทัพคนผสมลิง กองทัพยักษ์ จึงกรีธาเข้าหากัน...เอ้า...ยกทัพโยธาเวลาดึก สุ้มเสียงอึกทึกสนั่นไหว นุ่งเขียวห่มแดงเข้าแสงไฟ ยกทัพกันไปเข้าต่อตี...ฮึม ฮึม หึ่ม ฮึม...

          พลช้างขี่ช้าง            แลหูหางชี้

          พลลิงขี้ลิง              แลดูหิงลี

          พลม้าขี่ม้า              แลดูหามี้

          พลควายขี่ควาย       แลดูหายฟี

          พลคนขี่คน              แลดูหนคี

          ยกทัพต่อตีกันเร็วไว   เอ้า...เฮ...

ทศกัณฐ์ ลักพานางสีดาเพื่อหวังเอาไปทำเมีย ก็ไม่ได้เป็นเมีย แถมยังเสียบริวารรวมทั้งชีวิตตนเอง พระรามตามมเหสี ก็เสียไพร่พลเป็นจำนวนมาก ได้สีดายอดรักยอดกามารมณ์คืนเพียงคนเดียว พอมีความสุขก็สุขเพียงคนเดียว มิได้แบ่งปันให้เจ้าพวกพลลิงแอบดูบทรักองค์รามเป็นขวัญตาหรือปลุกอารมณ์แต่ประการใด

กล่าวถึงพลพรรคยักษาตัณหาสิง และพลลิงองค์ราม ที่ออกสงครามตายไปเป็นจำนวนมาก เมื่อมันตายไปแล้ว มันจึงไปเจอกันในนรก ครั้นเมื่อเจอกันก็จะห้ำหั่นกันใหม่ในนรก ยมบาลเห็นเช่นนั้นแล้ว จึงหยุดยั้งแล้วกล่าวกับพวกมันว่า....

          ฮะเฮ้ย เหวยพวกมึง    อย่าตะบึงตะแบงตะบอน

  หยุดจิตคิดเสียก่อน             ไยราญรอนกันและกัน

   ลองคิดสักนิดไหม               พวกมึงได้อะไรนั่น

    ขี้ข้าต้องอาสัญ                  สีดานั่นมันของใคร

ฉากนี้จบลงด้วยผียักษ์ผีลิงหันหน้ามาปรับทุกข์กัน

           กูนี่หรือ         คือเครื่องมือ          ของคน ยักษ์

  เฝ้าพิทักษ์              สีดา                      จนอาสัญ

   พวกเราตาย          แล้วเราได้              อะไรกัน

ถูกเย้ยหยัน              จากหัวหน้าว่า...      “พวกโง่”

 

                           พระเทพปฏิภาณวาที

                               “เจ้าคุณพิพิธ”

 


อ่าน : 0

แชร์ :


เขียนความคิดเห็น