ราคารวม : ฿ 0.00
พระเทพปฏิภาณวาที(เจ้าคุณพิพิธ)
ตาของเรานี้มีอยู่ ๒ ข้าง เรียกว่า ตาซ้าย ตาขวา แต่การใช้ประโยชน์ของตานี้ ทางศาสนาหรือที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนนั้น จะต้องทำตานี้ให้เป็น ๓ ตา ให้ได้
ตาที่เป็น ๓ ตานั้น มีประโยชน์อย่างยิ่ง หากว่าเราใช้ตาพิมพ์แบบเดียวรูปแบบเดียว จะไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ตาของเรานี้มีความอัศจรรย์ คือ ถ้าเราลืมตา เราเห็นภาพภายนอก ภาพนั้นเป็นภาพจริงที่ปรากฏต่อตาของเรา เวลาเราดูอะไร เราจะเห็นภาพจริงอันปรา กฏต่อตาของเรา ส่วนจะดีหรือชั่ว เป็น อิฏฐารมณ์ อนิฏฐารมณ์ คือ อารมณ์ที่ชอบใจ ไม่ชอบใจ ก็ว่าเป็นเรื่องหนึ่ง ตาประเภทนี้เรียกว่า มังสะจักษุ แปลว่า ตาเนื้อธรรมดา ๆ
แต่ตาคู่นี้หากว่าหลับตาลง ปิดการเห็นเบื้องหน้าเสียจะกลับมาย้อนเห็นภายใน ตาดวงนี้จะเห็นภาพที่สอง เรียกว่า ภาพใจ ภาพใจนี้เป็นภาพพิเศษ คือ จะต้องนำภาพจริงนั้น รวมทั้งเสียงที่ฟังมาไตร่ตรองให้เห็นภาพใจ และตาดวงที่สอง คือ ตาที่หลับตาเห็นภายในนี้เป็น ปัญญาจักษุ หากแม้ว่ารวมการฟังเข้ามาด้วย ทั้งดูทั้งฟังแล้ว ภาพใจก็จะเกิดขึ้นเป็นปัญญาจักษุ เรียกว่าเป็น จินตามยปัญญา นำความรู้มารวมกันจะเกิดเป็น ตาดวงวิเศษ เรียกว่า จินตามยปัญญา เป็น ปัญญาจักษุ
ตาดวงนี้หากแม้ว่าหลับลึกไป ยกตาดวงนี้สอดส่องมองดูในพระไตรลักษณ์ คือ มองดูในขันธ์ ๕ ของเรา แล้วนำพระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ....
- ไม่เที่ยง
- ไม่ยั่งยืน
- ไม่ใช่ของเรา
ให้เห็นความเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไป อันเป็นสัจธรรมความจริง ตาดวงนี้กลายเป็นตาพิเศษ เรียกว่าเป็น ธรรมจักษุ และตาที่สอดส่องมององค์ธรรมแล้วกลับมามองตัวเรา ได้แก่ สติปัฏฐาน คือ ....
- กายานุปัสสนา สติปัฏฐาน นำสติมากำกับแล้ว กำกับการดูภายใน เห็นกาย ความเกิดแห่งกาย ความดำรงแห่งกาย ความเปลี่ยนแปลงแห่งกาย ความมีโรคภัยไข้เจ็บ
- เห็นการรับรู้อารมณ์ เป็นสุข เป็นทุกข์ เป็น เวทนานุปัสสนา สติปัฏฐาน
- เอาตาดวงนี้มาดูจิตโดยมีสติกำกับ เป็น จิตตานุปัสสนา สติปัฏฐาน
- เอาตาดวงนี้มาดูธรรมะ บรรลุความจริงในธรรมะ เป็น ธัมมานุปัสสนา สติปัฏฐาน
ตาดวงนี้จึงเป็น ธรรมจักษุ เพราะฉะนั้น เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้วจงพัฒนาตาของตน ใช้ตาให้ครบ ๓ ดวงแล้ว ภาพที่เกิดจะไม่หลอกลวงตาของเรา
แชร์ :
เขียนความคิดเห็น