ราคารวม : ฿ 0.00
การมีกริ่งเตือนใจให้เราไม่ประมาทในการประพฤติทาง กาย วาจา ใจ นั้น คือ การที่เราจะต้องเตือนตัวเองเสมอตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ได้นำมาผูกไว้เป็นเรื่องของ อย่า ๙ อย่า คือ ....
โกรธ - อย่าระเบิด
ทรัพย์สิน - อย่าละโมบ
การมีกริ่งเตือนใจให้เราไม่ประมาทในการประพฤติทางกาย วาจา ใจนั้น คือ การที่เราจะต้องเตือนตัวเองเสมอตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
เมียผัว - อย่าระแวง อยู่ด้วยกันแล้วอย่าระแวงซึ่งกันและกัน จะไม่มีความสุข การระแวงซึ่งกันและกันก็นำมาซึ่งการถาม จู้จี้ ถากถาง กระฟัดกระเฟียด กระแนะกระแหน ทะเลาะเบาะแว้ง ตบตี สุดท้ายก็มีการฆ่ากันด้วยความหวาดระแวง
ความหวาดระแวงเกิดขึ้นจากอะไร ?
เกิดขึ้นจากผัว - เมียไม่ปฏิบัติให้ซื่อตรงต่อกัน ผัวต้องปฏิบัติต่อเมีย ๕ ประการ แล้วเมียจะไม่ระแวง คือ....
- จริงใจ
- ให้เกียรติ
- ไม่เหยียดหยาม
- มอบเครื่องประดับความงาม
- มอบความเป็นใหญ่ให้
ถ้าผัวหรือสามีปฏิบัติอยู่อย่างนี้ รับรองว่าเมียไม่ระแวง
ส่วนเมียเล่าจะทำให้ผัวไม่ระแวง เมียต้องปฏิบัติดี ต้องเป็นแม่ให้ได้ ๖ แม่ คือ ....
- แม่เรือน
- แม่แรง
- แม่ครัว
- แม่ค้า
- แม่พระ
- แม่คุณ
ถ้าเมียปฏิบัติได้ ๖ ประการเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีการหวาดระแวงกัน และเหตุที่เป็นเรื่องหวาดระแวงนั้น
๑. สังคมทำให้เราเกิดความไม่ไว้วางใจในคู่ครองของเรา เพราะสังคมปัจจุบันนี้เสียหายในเรื่องเพศสัมพันธ์และกามารมณ์ ท่านทั้งหลายอย่าเอาสังคมมามองคู่ครองของเราซึ่งเป็นคนดีมีศีลธรรมอยู่เลย
๒. เสียงของชาวบ้าน ชาวบ้านเห็นเราอยู่ดีมีสุขก็เริ่มจะไม่พอใจ มักจะเอาไฟนอก ๆ มาเป่าหูเรา บ้านเรือนที่มันล้มนั้นเพราะโดนวาตภัยกับอัคคีภัย ส่วนบ้านเรือนที่เรียกว่าครอบครัวที่ล้มนั้นเพราะบ้านเรือนหลังนั้น ๆ ถูกลมปากเป่าหู แล้วก็ไปหลงลมปาก แล้วเกิดเป็นไฟพัดกระพือ บ้านเรือนนั้น ๆ จึงประสบวาตภัย และ อัคคีภัย เพราะฉะนั้น อย่าฟังปากชาวบ้านเอามาระรานคนในครอบครัว
ลูก ๆ - อย่าละทิ้ง เลี้ยงลูกให้ดี ให้ลูกให้ครบ ๑๐ ประการ ....
- ให้มีกาย
- ให้มีเกิด
- ให้มีกิน
- ให้มีอยู่
- ให้มีความรู้
- ให้มีคู่เบียด
- ให้มีเกียรติ
- ให้มีบุญ
- ให้มีทุนไปปรโลก
- ให้มีธรรมะดับโศกในจิตใจ
อย่าไปละทิ้งเขา ถ้าทิ้งเขาแล้ว ลูกประสบเคราะห์กรรมแล้ว ความเสียหายของลูกจะตามมากระหน่ำซ้ำเติมเราและวงศ
ตระกูล เพราะฉะนั้น จงปฏิบัติหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดี คือ... ลูก ๆ - อย่าละทิ้ง
นอน - อย่าละเมอ อย่าเก็บอารมณ์คั่งค้างไว้ เรียกว่า อย่ามีนิวรณ์ในใจ ถ้ามีนิวรณ์ในใจ นอนก็นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ครั้นหลับไปแล้ว นิวรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ กามฉันทะ พยาบาท ความฟุ้งซ่าน ความไม่สบายใจ หรือ ความรัก โลภ โกรธ หลง มันก็เป็นตะกอนนอนใจ คราวนี้ถ้าเกิดฝันร้าย ฝันเมื่อควบคุมไม่อยู่ถึงขนาดละเมอ และบางทีละเมอไปทำสิ่งต่าง ๆ หรือละเมอไปทำร้ายทำลายคนอื่นก็มี ดังนั้น วิธีการกำจัดให้นิวรณ์ตะกอนใจหมดไปก่อนหลับ วิถีชีวิตของคนไทยจึงต้องสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน แล้วดับความร้อนในอารมณ์ให้หมด ตัดกิเลสนิวรณ์ในใจให้หมด แล้วหลับให้สบาย ดังนั้น จึงขอให้ท่านทั้งหลายดำรงวิถีชีวิตด้วยการสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนแล้วจะได้ไม่ละเมอ
บาปกรรม - อย่าละเมิด อะไรที่เป็นบาปกรรมอย่าไปละเมิดเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องศีล ประพฤติผิดศีลแล้วเป็นบาปทั้งนั้น ประพฤติผิดศีลแล้วไปเป็นสัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย ล้วนแล้วแต่ประพฤติผิดศีลทั้งนั้น เมื่อประพฤติผิดศีลก็ประพฤติผิดธรรมะ เขาเรียก คลาดจากคลองธรรม เพราะฉะนั้น...บาปกรรมอย่าละเมิด
ทุกข์ - อย่าระทม ทุกข์แล้วอย่าไปเจ่าจุก อย่าไปฝังตัวอยู่ในความทุกข์ ทุกข์แล้วออกที่แจ้ง ทุกข์แล้วจุดธูปจุดเทียนไหว้พระ ให้อยู่ในที่สว่างไว้ และคิดว่ามันอยู่กับเราไม่นาน เพียงเงยหน้ามองฟ้า สูดลมหายใจเข้าแล้วปล่อยให้มันละลายหายไปกับฟ้า เท่านั้นแหละทุกข์ก็หมดไป
สุข - อย่าระเริง สุขแล้วมันก็อยู่กับเราไม่นาน เหมือนลมหายใจเข้า สุขครึ่งหนึ่ง ทุกข์ครึ่งหนึ่ง หายใจออกก็สุขครึ่งหนึ่ง ทุกข์ครึ่งหนึ่ง
หายใจเข้า : สุขครึ่งแรก ทุกข์ครึ่งหลัง
หายใจออก : สุขครึ่งแรก ทุกข์ครึ่งหลัง
เป็นเหมือนกัน หากแม้ว่าเราคิดถึงระบบลมหายใจแล้ว ทุกข์อย่าระทม สุขก็อย่าระเริง ...อย่าไปติด...
นอกจากนั้นแล้ว ทาน ศีล ภาวนา คือ บุญ - อย่าละวาง มีโอกาสทำบุญสุนทานเป็นการมงคล มากน้อยอยู่บนพอเหมาะพอดี เกิดมาเป็นคนแล้ว ....
ปุญฺญญฺเจ ปุริโส กยิรา กยิราเถนํ ปุนปฺปุนํ
ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย.
เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้ว พึงกระทำบุญ พึงกระทำบุญนั้นบ่อย ๆ ตามโอกาสที่อำนวย
เมื่อทำบุญแล้ว ...ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ... ควรพอใจพึงใจในโอกาสที่เราทำบุญแล้ว
สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย ... เพราะการสั่งสมซึ่งบุญนำสุขมาให้แก่เราในโลกนี้ และเมื่อมรณาแล้ว ไปรับผลดีในโลกหน้า เรียกว่า... อยู่ในสวรรค์หรือในพรหมโลก
อย่า ๙ ประการนี้ เป็นกริ่งเตือนใจให้ท่านทั้งหลายดำรงชีวิตและดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท เพราะฉะนั้นเมื่อท่านทั้งหลายปาวรณาว่า... อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ ...แล้ว ก็จงภาวนาต่อว่า ....
ทรัพย์สิน - อย่าละโมบ
เมียผัว - อย่าระแวง
ลูก ๆ - อย่าละทิ้ง
นอน - อย่าละเมอ
บาปกรรม - อย่าละเมิด
ทุกข์ - อย่าระทม
สุข - อย่าระเริง
บุญ - อย่าละวาง
แชร์ :
เขียนความคิดเห็น