ราคารวม : ฿ 0.00
คนเราเกิดมาก็รักกัน รักแล้วก็ลุ่มหลงพะวงหากัน ไม่มีไม่ได้ คิดถึงจะตาย รักจะตาย ขาดเธอฉันจะตาย มันจะตายทั้งนั้นแหละ เพราะมันเกิดราคะคือความรัก ก็หวังว่าสังขารของหญิง-ชายที่ตนรักนั้นจะอำนวยความสุขอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ว่ามนุษย์ทั้งหลายเกิดมาแล้วก็ต้องรู้ว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย อาตมาอยากให้ข้อคิดที่เป็นคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า....
มองดวงจิต ให้ซึ้ง ถึงผิด – ถูก
มองดูกาย เห็นกระดูก ผูกโยงไว้
อันตัวเรา ที่เห็น เป็นฉันใด
คนอื่นไซร้ ไม่ต่างกัน ฉันนั้นเชียว
ร่างกายเรานี้อะไร ๆ ที่เราผูกเอาไว้ มันถูกดึงไว้ด้วยเส้นเอ็น มันก็เป็นโครงกระดูกของเรา ทานทั้งหลายไปเดินดูที่พิพิธภัณฑ์การแพทย์ของโรงพยาบาลศิริราช ไปยืนดูโครงกระดูกมนุษย์ ไปดูเส้นเอ็นร้อยจะได้รู้ว่ามันเป็นอย่างนี้นี่เอง และยังมีเส้นเอ็นอีกมากมายที่ถูกทำลายออกไปแล้ว เราเห็นแต่โครงร่างที่เหลือจะรักไหม เราจะรู้ไหมว่าบางศพบางกระดูกเป็นสาวสวย เป็นหนุ่มหล่อ เป็นคนมีชื่อเสียง แต่เรามองไม่เห็น คน ๆ นี้อาจเคยถูกแย่งกันเคยถูกชิงกัน เคยตบตีกัน เคยใช้ร่างกายสังขารนี้ไปเที่ยวเตร่ไปหาความสุข ไปเสพกามารมณ์ ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานเมามันกับเพื่อนกับคนรัก เราไม่เห็น แต่เดี๋ยวนี้ล่ะเราเห็นแต่กระดูก
เมื่อจิตละ จากกาย เรียก “ตาย” นั่น
กายก็พลัน พองช้ำ เน่าดำเขียว
ไม่มีใคร ใคร่ดู สักผู้เดียว
เขาหวาดเสียว พากันหนี ศพผีแล ฯ
เมื่อความตายมาพราก จะมีใครอยากดูศพคนตาย มีใครอยากเปิดศพดูบ้าง เอาพระเอกนางเอกหนังและนางงามก็แล้วกัน เอาคนที่เรารักที่สุด พอเปิดโลง (ศพที่ไม่ฉีดยาดองศพ) และเห็นสภาพศพ มีแต่จะเบือนหน้าหนี ไม่อยากมอง ไม่กล้ามอง เพราะภาพนั้นจะติดตาไปตลอดชีวิต และท่านจะเกลียดสิ่งนั้นตลอดชีวิต
เพราะฉะนั้นจะยิงกันจะฆ่ากันเพราะความรัก แย่งผู้หญิงกัน แย่งผู้ชายกัน เลิก ๆ เสียเถอะ มันตายแล้วไม่มีอะไรเลย แม้แต่เราตายแล้วมันก็ไม่มีอะไรเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหนอนเท่านั้นคือเจ้าที่แท้จริงของชีวิต
พระเทพปฏิภาณวาที
“เจ้าคุณพิพิธ”
แชร์ :
เขียนความคิดเห็น