ราคารวม : ฿ 0.00
เรื่องโลกธรรม ได้แก่เรื่อง ได้ กับ เสีย บางคนทำใจไม่ได้ คือ บางคนอยากได้อย่างเดียว อยากได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่ฝ่ายเดียว โดยไม่คิดถึงว่าโลกธรรมมี ๒ ส่วน คือ ....
ได้ลาภ ก็มีเสื่อมลาภ
ได้ยศ ก็มีเสื่อมยศ
ได้รับการสรรเสริญ ก็ต้องมีการถูกนินทา
ได้สุข ก็ประสบทุกข์
สิ่งที่เราได้มาก ๆ นั่นแหละ คือสิ่งที่เราจะเสียไปมาก ๆ ลองมีใครได้สุขมาก ๆ สิ คนอื่นก็อิจฉา สุขอาจจะก่อให้เกิดการนินทาก็ได้ ได้ยศอาจจะก่อให้เกิดความรังเกียจเดียดฉันท์ อาจจะก่อให้เกิดการถูกโค่นล้มก็ได้ ดังนั้น เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้วต้องผจญกับโลกธรรมและทำใจเป็นกลาง ๆ
หากแม้ว่าเมื่อไรเราได้ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มีความสุขมากเท่าไร ขอให้ท่านเข้าใจว่าเวลาเราไม่ได้ เราจะช้ำมากเท่านั้น
หากแม้ว่าท่านไม่ได้ ท่านช้ำมากเท่าไร เมื่อท่านได้ ท่านจะมีความสุข แล้วก็จะทุกข์มากเท่านั้นอีก
แต่ถ้าเราเชื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ววางใจเป็นกลาง ๆ เราจะสบายใจ เรียกว่า รู้โลกธรรม เรามองเห็นการทำงานของบริษัทเอกชน การทำงานของข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง มีแต่แก่งแย่งชิงดีกัน มีแต่ความเศร้าโศกเสียใจกัน เพราะอะไร ?
เพราะเขาหวังได้อย่างเดียว เมื่อหวังได้ ชีวิตเขาอยู่อย่างหวาด หวาดกลัว หวาดหวั่น หวาดระแวง และ หวาดผวา มีใครนอนเป็นสุขบ้าง ปลาเล็กจะกินปลาใหญ่ ปลาใหญ่จะกินแต่ปลาเล็ก ไม่ยอมให้ปลาเล็กเกาะกินบ้าง มันไม่ได้
พรรคการเมืองใหญ่ ๆ จะเขมือบพรรคเล็ก ๆ พรรคเล็ก ๆ จะเบ่งบารมีสู้พรรคการเมืองใหญ่ ๆ อาตมภาพว่าอยู่กันแบบหวาดกลัว หวาดหวั่น หวาดระแวง และ หวาดผวา ไม่เห็นมีการอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเลย ไม่มีความจริงใจกัน
- คราวนี้เราจะทำอย่างไร ?
- ตัดความหวังเสีย การตัดความหวังนั้นจะได้อยู่อย่างไม่หวาด และใครให้ระวัง ใครสอนเรามาผิด ๆ เราจำใครมาอย่างผิด ๆ ต้องจำพระพุทธเจ้าสิท่านทั้งหลาย
คนผู้อยู่อย่างหวาด ย่อมขี้ขลาดและตาขาว
หวังครองซึ่งเดือนดาว อันพร่างพราวบนนภา
ความหวังก่อความหวั่น อกก็สั่นขวัญผวา
เมื่อได้ชมสมอุรา กินน้ำตาพาตรอมตรม
ใครเล่าให้เจ้าหวัง ใครฉุดรั้งให้เจ้าขม
เจ้าหวังเพียงลม ๆ เจ้าโศกตรมเพราะเจ้าแส่
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ถ้าเจ้าเพลินเจ้าก็แพ้
อยากพ้นทุกข์เป็นสุขแท้ ดับหวังเถอะเจอะสุขพลัน
พระเทพปฏิภาณวาที
"เจ้าคุณพิพิธ"
แชร์ :
เขียนความคิดเห็น