ตอนที่ 205 : หน้ากากเทวดาอสูรจำแลง

อาตมาเคยดูภาพยนตร์เรื่องหน้ากากเทวดา เป็นหนังฝรั่งที่ดังมาก พระเอกหล่อ และอาตมาก็เคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์ ยักษ์ที่จะมาสู้รบมาปราบพระรามพระลักษณ์ อสูรต้องแปลงร่างมาเป็นคนเป็นเทวดา แปลว่า...หน้ากาก คือสภาพจิตใจของคน

มีคนจำนวนไม่น้อยในยุคที่ผ่าน ๆ มาหรือโลกใบนี้ เป็นพวกอสูรจำแลง คือจิตใจกับพฤติกรรมมีแต่ละโมบโลภมาก ฉ้อฉล โกงกิน แต่ฉากหน้าทำตัวเป็นนักบุญ ฉากหลังเป็นฆาตกร ฉากหน้าดูเมตตาปราณี เพื่อหาที่ยืนหยัดในสังคมได้รับความนิยมยกย่อง 

เมืองไทยของเรามีคนประเภทนี้เยอะ และมันยังจะไม่หายไปจากเมืองไทย ไม่หายไปจากโลกใบนี้ คือพวกหน้ากากเทวดา เอาหน้ากากเทวดามาสวม โอ้โฮ ! เป็นตัวพระ ในสังคมเล็ก ๆ ในสังคมใหญ่ ๆ แต่เบื้องหลังนั้นโกงกินมา ปล้นจี้มา รีดนาทาเร้นเอาของคนอื่นมา เอามาสงเคราะห์ประชาชน เอามาทำบุญกับพระ ขอถามจริง ๆ เถอะว่าเอาเงินมาจากไหน 

บรรดานักการเมืองทุกระดับ ต้องพูดถึงนักการเมือง ข้าราชการ บางท่านบางคน ได้โอกาสแล้วก็สวมหน้ากากเทวดาให้คนเขากราบไหว้ มีบริวาร แต่ความชั่วร้ายมันอยู่ภายใน มันอยู่เบื้องหลัง แล้วก็หลงระเริง พอสวมไปสวมมาก็นึกว่าตัวเป็นเทวดา หันกลับมามองภายในบ้างสิ สำรวจกิเลสของตัวเองบ้าง ว่าแท้ที่จริงแล้วเราคืออสูรจำแลง จำแลงมาอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ พวกอสูรจำแลงนี้น่ากลัวเพราะคนก็หลงว่าเป็นเทวดา 

หน้ากากที่เราโปะหน้าไว้ด้วยเสื้อสูท ด้วยรถยนต์ ด้วยอะไรต่าง ๆ ก็แล้วแต่ หันกลับมานึกสิว่านี่คือกิเลสของเรา เบื้องหลังมีการฆ่ากัน การทำร้ายกัน การขูดรีด การฉ้อฉล การโกงกิน ฯลฯ แต่เมื่อปรากฏตัวในสังคมในสื่อกลายเป็นเทวดา

ท่านผู้อ่านทั้งหลายเราต้องมองคนพวกนี้ให้ออก อย่ายกมือไหว้ให้เสียมือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ(ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง) การบูชาคนควรบูชา นำมาซึ่งมงคล ท่านเอามือท่านไปไหว้คนที่ไม่ควรบูชาเป็นอัปมงคล จะทำให้เขาเคยตัว และพฤติกรรมเบื้องหลังเขาจะกำเริบเสิบสาน และใครที่กำลังรู้ตัวว่าเป็นอสูรจำแลงสวมหน้ากากเทวดาไว้ จงหมั่นสำรวจตัวดูตนเองและสยดสยองต่อกิเลส ให้เกิดความเศร้าใจ มองทุกอย่างที่ได้มานั้นว่าเราได้มาจากความสามารถหรือความสามานย์

 

                 พระเทพปฏิภาณวาที

                    “เจ้าคุณพิพิธ”


อ่าน : 0

แชร์ :


เขียนความคิดเห็น