ราคารวม : ฿ 0.00
บทที่ 26 แต่งงานกันมั้ย
เมื่อพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล รดาก็โทรแจ้งที่บ้าน ไม่นานทุกคนก็มาพร้อมกันหน้าห้องผ่าตัด
“เป็นยังไงบ้างลูกรดาหนูไม่ได้รับบาดเจ็บใช้มั้ย แล้วพี่เขา หมอว่ายังไงบ้าง” คุณย่าเอยถามเป็นคนแรก
“กระสุนไม่โดนอวัยวะสำคัญ คุณหม้อกำลังผ่าตัดเอากระสุนปืนออกอยู่ค่ะ”
“ย่าบอกเข้มแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับแม่คนนี้ ถ้าเข้มฟังย่า เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แม่คนนี้ย่าดูก็รู้ร้ายจะตาย”
“หนูก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยถ้าไม่เป็นเพราะหนูคุณเข้มคงไม่มาเจ็บแบบนี้”
“หนูอย่าโทษตัวเองเลยลูก ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กรอก พี่เขาเองก็คงไม่อยากให้หนูได้รับอันตรายจึงปกป้องหนูด้วยชีวิตอย่างนี้” แล้วคุณย่าก็สวมกอดรดาด้วยความรักความเอ็นดู
“มาแล้วค่ะคนป่วยมาแล้วค่ะ” เก้ ออกจากโมดซึ่งคนแรก
“คุณพยาบาลค่ะ น้องของดิฉันเป็นยังไงบ้าง” ลินลี่ปรี่เข้าไปถามพยาบาลที่ออกมาจากห้องผ่าตัด
“คนไข้ปลอดภัยค่ะ คุณหมอให้นอนดูอาการที่ห้องพักฟื้นก่อน เชิญญาติไปรอที่ห้องพักได้เลยค่ะ”
“ขอดิฉันอยู่ตรงนี้ได้มั้ยคะ” รดา ขอร้องพยาบาล
“ได้ค่ะ แต่ญาติเข้าไม่ได้นะคะ อนุญาตให้ยืนดูอาการหน้าห้องกระจกได้ค่ะ ขอตัวนะคะ”
“น้องดา พี่เก้ว่าไปรอที่ห้องดีกว่า พยาบาลก็บอกอยู่ว่าคุณเข้มเขาปลอดภัยแล้ว แก่เป็นห่วงเขาได้แต่แก่ก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วนี่แก่ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย เดียวฉันกับน้องแทนไปหาอะไรมาให้แก่กิน”
“ป้าก็คิดเหมือนกันกับนางเก้ นะลูก ไปรอบนห้องดีกว่า”
ลินลี่ต้องเป็นคนจูงมือรดาให้เดินตาม ขึ้นห้องพัก รดาถึงยอมเดินตามไป
“มาแล้วครับอาหารพร้อมเครื่องดื่ม” น้องแทน กุลีกุจอบริการทุกคน
“เอานี่ข้าวของหล่อนกินหน่อย”
“ฉันกินไม่ลงหรอกพี่เก้ ฉันเป็นห่วงคุณเข้มเขา”
“นี้หล่อน นิดหนึ่งก็ยังดี เดียวคุณเข้มเขาฟื้นมาแก่จะได้มีเรี่ยวแรงดูแลเข้า”
“ย่าว่ากินบ้างเถอะ หนูดาเดี๋ยวจะไม่สบายไปอีกคน” ได้ยินคุณย่าพูดแบบนั้น รดาจึงยอมกินอาหารไปครึ่งหนึ่ง
อาการของภาคิณไม่หนักมาก บวกกับร่างกายของคนไข้แข็งแรง หมอจึงอนุญาตให้คนไข้ขึ้นไปนอนพักดูอาการที่ห้องได้
เมื่อทุกคนเห็นว่าภาคิณ ปลอดภัยแล้วก็พากันกลับ เพราะเกรงใจคนไข้ห้องอื่น
เป็นรดาที่ขออยู่เป็นคนเฝ้าดูอาการของคนป่วย โดยทุกคนก็ไม่ขัดข้อง
“คุณเข้ม ทำไมคุณไม่ตื่นชักที่ ดาเป็นห่วงคุณมากคุณรู้มั้ย” รดาจับมือภาคิณและพูดกับภาคิณที่ยังหลับอยู่
“ไม่เพราะฉัน คุณคงไม่เจ็บแบบนี้ ตื่นซิหมียักษ์ อย่ามาทำเป็นใจแมวนะ เดียวฉันไม่ยกขันมากไปขอคุณนะคุณเข้ม
“รดาคุณพูดจริงเหรอ” ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“คุณเข้ม คุณฟื้นแล้ว คุณรู้มั้ยคุณหลับไปตั้ง หนึ่งวันแนะ” รดาดีใจ เขย่าแขนภาคิณไปมา
“รดาเบาๆ ผมเจ็บแผล”
“ก็ฉันดีใจนี้คุณ ก็คุณไม่ฟื้นชักที่”
“แต่ผมได้ยินใครบางคนแถวนี้ ว่าจะยกขันหมากมาขอผมนะ”
“ไหนใครจะยกขันหมากไปขอคุณ ไม่มี”
เข้มทำหน้าจ๋อย “นี้คุณแค่พูดเล่นเท่านั้นเหรอ ผมคิดว่าคุณพูดจริง” พูดจบก็หลับตานอนอย่างเงียบๆ
“เอ่อ คือว่าฉัน คุณเข้มค่ะ”
เงียบ แล้วก็เงียบ รดาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ก็เลยเงียบ อีกคน สรุปเงียบทั้งห้อง
“นี้เราคงพูดอะไรผิดไปซินะ”
ก๊อกก๊อก!” อาหารมาแล้วค่ะ คุณหมอให้ทานเป็นอาหารอ่อนๆ นะค่ะ และนี่ยาหลังอาหารนะคะ”
“คุณเข้มมาค่ะ ทานอาหารแล้วจะได้ทานยานะคะ”
“ผมยังไม่หิว ผมไม่อยากกิน” เข้มทำอาการเหมือนเด็ก
“ผมไม่มีกะจิตกะใจจะกิน อะไรทั้งนั้น
“งั้นคุณคงไม่มีแรงจะเป็นเจ้าบ่าวหรอกนะคะคุณเข้ม” ภาคิณลืมตาเบิกโพลง ด้วยความตกใจคำพูดของรดา
“รดาคุณหมายความว่ายังไง ไหนคุณบอกว่าคุณไม่ยกขันหมากมาขอผมไง”
“เป็นคุณต่างหากที่จะต้องยกขันหมากมาขอฉัน ไม่ใช่ให้ฉันไปขอคุณ”
“รดา คุณพูดจริงหรือเปล่า”
“หรือจะให้ฉันพูดเล่นคุณเข้ม”
“งั้นเราแต่งงานกันนะรดา”
“แต่งงานกับพี่เข้มนะน้องดา”
“ตกลงค่ะ” เข้มคว้าตัวรดามากอดด้วยความดีใจ
“พอแล้วคุณเข้ม แต่ตอนนี้ทานข้าวก่อน เดียวได้ทานยา จะได้หายเร็วๆ นะค่ะคุณเข้ม”
“ไม่เอาคุณเข้ม เรียกพี่เข้มได้มั้ย น้องดา ไหนร้องเรียกซิ”
“พี่เข้ม”
“มาค่ะ พี่เข้มทานข้าวนะคะ” รดาเตรียมถาดอาหารไปให้ใกล้ๆ
“น้องดาป้อนพี่เข้มหน่อยได้มั้ย” ทำเสียงออดอ้อน
“ป้อนพี่เข้มอะไรแขนพี่เข้มไม่ได้เจ็บเสียหน่อย”
“แต่พี่เจ็บแผล ป้อนพี่หน่อยนะ” โอ๊ย โอ๊ย ทำสำออย
“ก็ได้ค่ะ”
“ดีใจ อยากหายเร็วๆ จังเลยโว้ย”
ก๊อกๆๆ” ชื่นใจอะไรพ่อพระเอก เกือบสิ้นชื่อแล้วมั้ยละ” เสียงคุณหมอดิน สุดหล่อ เปิดประตูเข้ามาตามมาด้วย สิงห์หา และพี่ตี๋ใหญ่พร้อมกระเช้าของบำรุง
“มาเป็นบอยแบรนด์เลยนะครับคุณเพื่อน”
“น้องดานี้เพื่อนพี่ และคุณเพื่อนทั้งสามครับ นี้น้องรดาเรียกน้องดาก็ได้ครับ” พูดอย่างเพราะต่อหน้าสาว
“สวัสดีครับน้องดา พี่หมอดินครับ ลูกเจ้าของโรงพยาบาลครับ
“สวัสดีครับน้องดา พี่ตี๋ใหญ่ลูกเจ้าของตลาดครับ
“สวัสดีอย่างเป็นทางการ พี่สิงห์ครับ ลูกยายมณีและตาสมบัติคุณครับ” ไม่ต้องบอก รดาก็รู้ว่าเป็นตำรวจ
“น้อยๆ หน่อยมึง ตาสมบัติ นี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปะวะ” พี่ตี๋ใหญ่หมั่นไส้เพื่อน
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ รดาฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
“เอาน้องดา ไม่ต้องไปฝากเนื้อฝากตัวกับพวกมัน ฝากแต่กับพี่เข้มก็พอ” ทำท่าหึงน้อง
“เอาไม่ได้เหรอคะ” รดาแกล้งต่อ
ทุกคนพากันหัวเราะ55555555
“คุณค่าที่คุณคู่ควร” หมอดินกระซิบเพื่อน
“แน่นอน” ภาคิณพูดอย่างภาคภูมิใจ
“แล้วก็เรื่องแขไข ไม่รอดวะ รถชนประสานงากับสิบล้อเสียชีวิตคาที่วะ” สิงห์หารายงานเพื่อน
“น่าสงสารเธอจังเลยนะคะ ไม่น่ามาจบชีวิตแบบนี้เลย”
“ชีวิตคนก็เป็นอย่างนี่แหละน้องดา ไม่ช้าหรือเร็วก็ตายเหมือนกัน อยู่ที่ว่าตอนมีชีวิตอยู่ทำความดีมากน้อยแค่ไหน แต่แขไขมีแต่ความริษยา ไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักรักคนอื่นรักแต่ตัวเอง ผลที่ตามมาก็เลยเป็นอย่างงี้นี้ละครับ” พอพี่ตี๋ใหญ่พูดจบ ทุกคนก็ ”สาธุ” พร้อมกัน
“แล้วนี่อีกกี่วันกูจะกลับบ้านได้วะไอ้ดิน”
“กูไม่รู้กูไม่ใช้หมอดูแลมึง กู หมอสูติ แล้วมึงจะรีบกลับไปทำไม นอนเล่นไปก่อน นานๆ มาทีหนึ่ง”
“บ้าเหรอมึงไม่ใช้โรงแรม”
“เออ..เดียวกูถามหมอเจ้าของไข้ให้ กูว่าน่าจะ สอง สามวันแหละ ถ้าแผลไม่ติดเชื้อก็น่าจะกลับบ้านได้”
Share :
Write comment