Episode 5 : จาริกบุญเที่ยวเมืองรองสุพรรณบุรี

จาริกบุญเที่ยวเมืองรองสุพรรณบุรี

พฤษภาคม 2567

By: รณยุทธ์ จิตรดอน

     ต่อเนื่องจากเข้าไปถวายสังฆทานที่วัดเสมียนนารีเมื่อปลายเดือนเมษายน พอถึงวันที่ 1 พฤษภาคม ก็เป็นวันพระพอดี ซึ่งเป็นวันพระตรงกับวันแรม 8 ค่ำเดือน 5 จึงจัดภัตตาหารเพล(ข้าวเหนียว ไก่ย่างวิเชียรบุรี และหมูสะเต๊ะ ) 3+1 ชุดถวายพระสงฆ์วัดเสมียนนารี  

     เมื่อกลับเข้าบ้านได้นำบายศรีถวายพระมหามุนี รัตนโคดม และพระโพธิสัตว์กวนอิม องค์ละ 1 คู่ ลานบ้าน และถวายพานดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก ที่โต๊ะหมู่ในบ้าน     

     ตั้งแต่ทำบุญบูชาดาวพฤหัสบดีย้ายราศีเมื่อ 30 เมษายน พระครูสุตกิตติวรวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดป่าอุดมพร เมตตามอบเหรียญหลวงปู่โต๊ะมาเพิ่มเติมให้อีก 1 เหรียญ หลังจากที่เคยมอบให้มาแล้วจำนวนหนึ่ง

     วันที่ 5 พฤษภาคม ได้ร่วมงานบุญผ่าน zoom on line งานบุญอาทิตย์ ต้นเดือน วัดพระธรรมกาย อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี เริ่มพิธี ตั้งแต่ 9:30 น. ปฏิบัติธรรม, พิธีบูชาข้าวพระ และกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน เสร็จพิธีประมาณ 11:00 น.  สาธุ

     วันที่ 13 พฤษภาคม ได้เดินทางไปกาญจนบุรี ก่อนเดินทาง ได้ถวายสัปปะรด กล้วยหอม ส้ม Sunkist ขนุน แอปเปิ้ล และแจกันดอกบัว 3 ดอก องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ถวายแจกันดอกบัว 3 ดอก พระมหามุนี รัตนโคดม และแจกันดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก โต๊ะหมู่ในบ้าน และเดินทางระยะทางกว่า 265 กิโลเมตร มายังอำเภอทองผาภูมิ เพื่อพบคุณนพยุทธฯ เจ้าของล้งมะละกอ ฮอลแลนด์ และปัจจุบันแปลงนี้ 35 ไร่ ลงแคนตาลูปได้กว่า 100,000 ต้น มาเรียนรู้ที่จะนำพันธุ์มะละกอ ฮอลแลนด์ ไปปลูกใน“สวนทิพย์”อำเภอท่าม่วง  

     กลับเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี check in เข้าโรงแรม the Zeit ริมแควใหญ่ แวะไปถ่ายรูปที่หน้าสะพานข้ามแม่น้ำแคว แต่กลับมาทานข้าวที่ “Tongan & Cafe” มีเล่นดนตรี นับเป็นบรรยากาศที่มากาญจนบุรีที่ไม่ได้พักและทานข้าวบนแพ

     วันที่ 14 พฤษภาคม วัดถาวรวราราม (วัดญวน) กาญจนบุรี มีพิธีฉลองการก่อตั้ง ได้เข้าไปกราบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก มาเป็นประธานในพิธี และได้ถวายพระไพรีพินาศ 300 องค์ ให้พระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ไว้มอบให้สาธุชนที่มาทำบุญ  

     เนื่องจากยังอยู่ในพื้นที่ จึงแวะเข้าไปดูการเติบโตของมะละกอใน “สวนทิพย์” มีแปลงหนึ่งที่ยังไม่เลือกตัดต้นที่ไม่เป็นดอกออกเพื่อไม่ให้แย่งอาหารกัน และให้นายบรรจบ ผู้ดูแลสวนสั่งท่อน้ำเพิ่มเติมรดมะละกอที่กำลังโตอีก 2 แปลง ให้โตเต็มที่

     ยังคงอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี วันนี้เดินทางรวม 75 กิโลเมตร ผ่านอำเภอพนมทวน เข้าอำเภอห้วยกระเจา อันเป็นที่ตั้งพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถ ภายในบริเวณวัดทิพย์สุคนธาราม ซึ่งเป็นศาสนสถานที่ใหญ่โตมาก มีอาคารครบทั้งอุโบสถ วิหารและหอฉัน รวมทั้งองค์พระพุทธเมตตาองค์ใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทำให้สถานที่ค่อนข้างเงียบเหงา  

     แต่เมื่อเลยเข้าเขตอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน กลับมีนักท่องเที่ยวมากันอย่างไม่ขาดสาย ที่บริเวณผามังกรบิน ซึ่งแกะสลักเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ นามว่า พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ  

     อันเกิดจากการดำริของพระเทพสุวรรณโมลี (สอิ้ง สิรินนฺโท) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี หลังมีหลักฐานจากกรมศิลปากรระบุว่าในอดีตพื้นที่แห่งนี้ เคยเป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ โดยบริเวณนี้แต่เดิมเป็นเหมืองร้าง เป็นเขตสัมปทานระเบิดภูเขาทำโรงโม่หิน เมื่อหมดสัมปทาน จึงได้เริ่มโครงการแกะสลักพระพุทธรูปขึ้น ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพุทธมณฑลจังหวัดสุพรรณบุรีอีกด้วย 

     ต่อมาทางองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว (อพท.) ได้พยายามพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงได้คิดสร้างสกายวอล์คขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวมุมสูง  โดยมีลิฟต์พาขึ้นไปด้านบน แล้วเดินไปตามสกายวอลค์ ซึ่งสร้างเลียบไปตามหน้าผา เมื่อเดินจนสุดอีกด้านหนึ่ง จะมีร้านกาแฟให้นั่งดื่มชมวิวด้วย ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วว่ากันว่าจะเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในประเทศ

     ปัจจุบันพื้นที่บริเวณโดยรอบได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม ปลูกต้นไม้ร่มรื่น และมีรถกอล์ฟให้บริการ ซึ่งสามารถร่วมบุญค่ารถได้โดยใส่ตู้ทำบุญที่ท้ายรถ รถกอล์ฟจะรับจากลานจอดรถพาขึ้นไปยังอุโมงค์หินด้านบนหลังองค์พระพุทธรูป ซึ่งเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ ประดิษฐานพระพุทธรูปต่างๆ ให้สักการะมากมาย  ได้ปิดทองพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ คือ พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคตโม และพระศรีอริยเมตไตรย์

     จากนั้นจึงไปเช็คอินเข้าที่พัก โรงแรมปุษยบุรี ซึ่งอยู่ไม่ไกล เป็นโรงแรมสร้างใหม่ ทันสมัย สวย สะอาด มีสระว่ายน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และราคามิตรภาพมาก อ่านจากรีวิวมีผู้ที่เคยเข้าพักท่านหนึ่งบอกว่าน่าจะเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดของจังหวัดสุพรรณบุรีทีเดียว และจองได้ห้อง Suite King อีกด้วย มาสุพรรณบุรีครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว

     พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอู่ทอง เป็นสถานที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานก่อนประวัติศาสตร์ไทย “ทวาราวดี” ซึ่งปรากฏในหลายพื้นที่ด้วยกัน รวมทั้งที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลก“เมืองศรีเทพ” เมื่อเร็วๆ นี้  น่าเสียดายที่พิพิธภัณฑ์อู่ทองอยู่ในระหว่างการปรับปรุง จึงไม่ได้ดูโบราณวัตถุที่แสดงทั้งหมด  

     เสร็จแล้วตรงเข้าเมืองสุพรรณบุรี เพื่อแวะวัดต่างๆ ส่วนหนึ่งที่เคยได้ร่วมบุญนำปัจจัยบูรณะปฏิสังขรณ์ ศาสนสถาน วัดแรกแวะกราบพระป่าเลไลยก์ ซึ่งเป็นพระประจำราศีเกิด วันนี้เป็นวันพระจึงได้ทำบุญถวายภัตตาหาร และสร้างโบสถ์หลังใหม่ 

     และแวะไปวัดสำปะซิว ทำบุญพระพุทธสมปรารถนา ภายในอุโบสถ ที่มีภาพเขียนฝาผนังพุทธประวัติที่สวยงามมาก ได้ถวายพระไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศน์วิหาร 300 องค์ให้พระมหาอนันต์ เจ้าอาวาส มีพระพิศาล วิสาโล รับถวายแทน เพราะพระมหาอนันต์ติดตามสมเด็จพระพุฒาจารย์ ไปปฏิบัติศาสนกิจ  ขากลับผ่านอำเภอบางปลาม้า อำเภอสองพี่น้อง แวะเข้าวัดไผ่โรงวัว ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางมากกว่า 200 ไร่ จึงมีศาสนสถานสังเวชนียสถานภายในวัด และพระพุทธรูปองค์ใหญ่คือพระกะกุสันโธ พระพุทธเจ้าองค์แรก จึงได้ร่วมบุญหล่อพระอรหันต์ 8 องค์ ในวันวิสาขบูชา วันที่ 22 พฤษภาคม นี้ด้วย รวมเดินทางวันนี้ 174 กม. จึงเดินทางกลับ ใช้เวลาเดินทาง 3 วัน 2 คืน ได้บุญเต็มๆทั้งที่เคยทำ และทำในครั้งนี้    

     วันที่ 19 พฤษภาคม ได้ร่วมพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร กรุงเทพ โดยทางวัดได้จัดพิธีใหญ่โต เริ่มต้นวันที่ 18 พฤษภาคม ตั้งแต่มีขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุรอบเขต และนำลงเรือคลองเปรม ขึ้นวัดนำมาประดิษฐานที่มณฑปกลางพิธี

     เริ่มต้นพิธี เวลาประมาณ 10:00 น.มีพระพรหมวชิราธิบดี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ เป็นประธานในพิธี เมื่อพระราชาคณะที่รับนิมนต์เจริญพระพุทธมนต์ ได้ถวายไทยธรรม พระสงฆ์ให้พร ได้ถวายพวงมาลัยแด่พระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี เพื่อสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เสร็จพิธีประมาณ 11:00 น.    

     เริ่มต้นวันวิสาขบูชา โดบบูชาพระอุปคุต วันเพ็ญพุธ นำข้าวสุก ข้าวเหนียว ใส่ถ้วย น้ำ 1 แก้ว ตั้งหน้าพระอุปคุต บนหิ้งพระ กล่าวคาถาบูชาพระอุปคุต ตั้งจิตระลึกถึงพระอปคุตมารับบิณฑบาตร เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 22 พฤษภาคม เสร็จแล้วลาข้าวสุกและน้ำ ไว้ที่ต้นไม้ เพื่อให้กับสัมภเวสี และนำน้ำรดพื้นดิน    

     ปีนี้วันวิสาขบูชาตรงกับวันเพ็ญพุธ คือวันพุธขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 เป็นวันที่ 22 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 00:00 น. เมื่อคืนวันนี้ ได้นำข้าวสุก ข้าวเหนียว ใส่ถ้วย น้ำ 1 แก้ว ตั้งหน้าพระอุปคุต บนหิ้งพระ จุดธูป 3 ดอก เทียน 1 คู่

- กล่าวคาถาบูชาพระอุปคุต ใส่บาตรกับพระอุปคุต

- อธิษฐานจิต นึกถึงคุณความดีที่เราได้ทำ ขอบารมีพระอุปคุตได้โปรดดลบันดาลประทานพร

- ลาข้าวสุกและน้ำ ไว้ที่ต้นไม้ เพื่อให้กับสัมภเวสี และนำน้ำรดพื้นดิน

- นำสังฆทาน (บะหมี่สำเร็จรูป, นมถั่วเหลือง) 5 ชุด ถวายพระสงฆ์ ณ วัดเสมียนนารี

- กลับบ้าน ถวายแจกันดอกบัว พระมหามุนี รัตนโคดม และ องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม บริเวณลานบ้านและ จุดธูป9 ดอก ถวายแจกันดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก 2 แจกัน องค์ท้าวเวสสุวรรณ กล่าวบูชาพระรัตนตรัย สวดบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณ เทพเจ้าแห่งขุมทรัพย์และโชคลาภ 9 จบ ให้ประทานพรได้รับความสุขความสำเร็จ

     วันที่ 26 พฤษภาคม เข้าไปถวายพระสมเด็จไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ.2534 จำนวน1,000 องค์ ให้พระเดชพระคุณพระศรีรัตนากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม รองเจ้าคณะภาค 12 ในโอกาสที่ท่านเจ้าคุณย้ายกลับมาจากผอ.ศูนย์การศึกษาพระปริยัติธรรมวัดไตรมิตรวิทยาราม(เขาแม่ชี) อำเภอปากช่อง เพื่อท่านเจ้าคุณจะไว้มอบให้สาธุชนต่อไป

     และเดินทางต่อไปมุฑิตาพระครูวศินปริยัตยากร(หลวงพ่อโชคดี) เจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน เลขานุการรองแม่กองบาลีสนามหลวง  

     วันที่ 30 พฤษภาคมเป็นวันแรม 8 ค่ำเดือน 6 ตรงกับวันพระและเป็นวันอัฎฐมีบูชา ได้จัดภัตตาหาร(ข้าวเหนียว ไก่ย่างวิเชียรบุรี ส้มตำ ส้มสายน้ำผึ้ง และนมถั่วเหลือง) 3+1 ชุด ถวายพระวัดเสมียนนารี และนำแจกันดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก 2 แจกัน ถวายหิ้งพระในบ้าน ถวายพานดอกมะลิที่หิ้งพระอีก 3 หิ้งในบ้าน และแจกันดอกบัวถวายพระมหามุนี รัตนโคดม และองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม บริเวณลานบ้าน  

     วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน เวลา 13.00 น. วัดหนองแก ตำบลวังไทร อำเภอปากช่อง นครราชสีมา จะจัดบวชเณร 6 รูป ทั้งนี้ยังขาดเจ้าภาพถวายเพลพระเณร จำนวน 20 รูป และโยมที่จะบวชเณร 6 คน ลูกศิษย์วัด 4 คน (รวม 30 รูป/คน) โดยทางวัดจะจ้างให้ร้านทำอาหารมา 4 อย่าง ในราคา 5,000 บาท  

     ได้รับเป็นเจ้าภาพให้ทางวัด แต่เนื่องจากติดภารกิจสำคัญไม่อาจไปร่วมงานบุญนี้ได้ ขอให้อานิสงส์ที่ได้ทำบุญงานบวชครั้งนี้ เป็นพลวปัจจัยให้สำเร็จสมดังปรารถนา เทอญ  

 

2567 ท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

รณยุทธ์ จิตรดอน ผู้เขียน : ลุงกับป้าพาเที่ยว

 


View : 0

Share :


Write comment