ราคารวม : ฿ 0.00
ในบทแรก เราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติและการพัฒนาของ AI มาแล้ว ในบทนี้เราจะลงลึกไปในแนวคิดพื้นฐานของ AI ว่า AI ทำงานอย่างไร ประเภทของ AI มีอะไรบ้าง และมันแตกต่างกันอย่างไรกับเทคโนโลยีทั่วไป เราจะยกตัวอย่างงานวิจัยที่สำคัญเพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวมของการพัฒนา AI ในเชิงวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น
AI ทำงานโดยการเลียนแบบกระบวนการคิดและการตัดสินใจของมนุษย์ แต่แทนที่จะมีสมองจริงๆ AI ใช้ชุดคำสั่งทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า อัลกอริทึม (Algorithm) เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมา แล้วตัดสินใจหรือดำเนินการตามข้อมูลนั้นอย่างอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น การแนะนำภาพยนตร์ใน Netflix หรือการคัดกรองสแปมในอีเมล ล้วนเป็นผลลัพธ์จากการทำงานของ AI
ในงานวิจัยของ John McCarthy หนึ่งในผู้บุกเบิก AI และผู้ที่บัญญัติคำว่า "Artificial Intelligence" ในปี 1956 เขาได้อธิบายแนวคิดของการสร้างเครื่องจักรที่สามารถประมวลผลข้อมูลเชิงตรรกะเหมือนมนุษย์ โดยใช้กฎและความรู้เชิงสัญลักษณ์เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน นี่เป็นแนวคิดพื้นฐานของการพัฒนา AI ในยุคแรกๆ
อีกหนึ่งตัวอย่างคืออัลกอริทึมที่ใช้ในการประมวลผลภาษา หรือที่เรียกว่า Natural Language Processing (NLP) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ AI ใช้ในการเข้าใจภาษามนุษย์ งานวิจัยในปี 2018 ของ OpenAI ได้พัฒนาโมเดล GPT (Generative Pretrained Transformer) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่สามารถเขียนและเข้าใจข้อความในภาษาธรรมชาติ โมเดลนี้ได้รับความนิยมและพัฒนาไปเป็นพื้นฐานสำหรับหลายแอปพลิเคชัน AI ในปัจจุบัน เช่น Chatbots และการแปลภาษาอัตโนมัติ
AI สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและการตัดสินใจ โดยแบ่งเป็น 2 มุมมองหลักคือ
การแบ่งประเภทตามระดับความฉลาดของ AI
การแบ่งประเภทตามการทำงาน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยที่เกี่ยวกับ AI มากมายที่เปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามองเห็นและใช้งาน AI ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางงานวิจัยที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนา AI:
งานวิจัยของ Yann LeCun เกี่ยวกับ Convolutional Neural Networks (CNNs)
CNNs เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมของเครือข่ายประสาทเทียมที่ถูกนำมาใช้ในการรู้จำภาพ งานวิจัยของ Yann LeCun ในช่วงต้นปี 1990s ได้วางรากฐานให้กับการพัฒนาระบบการรู้จำภาพ เช่น การจดจำใบหน้าในสมาร์ทโฟน หรือการประมวลผลภาพทางการแพทย์ งานวิจัยนี้ยังถูกใช้อย่างแพร่หลายในระบบการตรวจจับวัตถุในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
AlphaFold ของ DeepMind
AlphaFold เป็น AI ที่ถูกพัฒนาโดย DeepMind เพื่อแก้ปัญหาการทำนายโครงสร้างของโปรตีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่ท้าทายที่สุดในวงการวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ผลงานของ AlphaFold ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature ในปี 2020 และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนายาและการศึกษาโรคต่างๆ
GPT-3 ของ OpenAI
GPT-3 (Generative Pretrained Transformer 3) เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการสร้างข้อความที่คล้ายกับภาษามนุษย์มากที่สุด งานวิจัยของ GPT-3 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำงานหลายด้าน เช่น การเขียนบทความ การแปลภาษา และการสนทนาอัตโนมัติ GPT-3 ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการเทคโนโลยีและนำไปสู่การพัฒนาแอปพลิเคชันหลากหลาย
AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดเชิงทฤษฎี แต่ยังถูกนำมาใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริงในหลายด้าน ตัวอย่างเช่น:
สรุปบทที่ 2: ในบทนี้เราได้ทำความเข้าใจถึงแนวคิดพื้นฐานของ AI ไม่ว่าจะเป็นประเภทต่างๆ ของ AI และการทำงานในระดับที่ซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานวิจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนา AI ในปัจจุบัน บทต่อไปเราจะมุ่งเน้นไปที่ Machine Learning ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำ
แชร์ :
เขียนความคิดเห็น