อังกฤษติดเกาะ | ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
อังกฤษติดเกาะ
only ebook
อังกฤษติดเกาะ

อังกฤษติดเกาะ

Author : อีฟอลิน

E-book

฿ 149.00

200.00

Discount 25 %

TAGS :

Book info

Barcode : 3000000000343

Book category : สารคดีท่องเที่ยว

Product details : อังกฤษติดเกาะ

ณ อายุ 18 ปี เราออกเดินทางพร้อมกับคำพูดที่เพื่อนรักคนหนึ่ง กล่าวเอาไว้ก่อนจบการศึกษาว่า “We are not going to be 18 forever.” ไม่มีใครอายุ 18 ไปตลอด คำพูดนั้นทำให้เรารู้สึกตัวว่าที่จริง แล้วเวลานั้นเป็นสิ่งที่มีข้อจำกัด วันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ เราก็จะมีอายุที่เพิ่มขึ้นๆ เรื่อยๆ ไป ดังนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของความ เป็นผู้ใหญ่ และเรายังไม่พร้อม รู้ตัวดีว่ายังมีอะไรอีกมากมายบนโลกใบนี้ที่ ‘ความเป็นเด็ก’ อนุญาตให้เราทำได้ และเป็นได้ หากเราซื่อสัตย์พอต่อ ความต้องการของตัวเอง และนั่นเป็นเหตุผลในการแพ็กกระเป๋า เดินหัน หลังให้ประเทศไทยในวันนั้น ไม่ใช่ว่า ‘บ้าน’ ไม่ดี ไม่ใช่ว่าครอบครัวต้องการผลักไส แต่เราคิด ว่ามันถึงเวลาที่เราต้อง ‘ใช้’ ชีวิตของตัวเองบ้าง และโอกาสแบบนี้ก็มีไม่ มากนัก โอกาสที่จะตามหาตัวตนและเป็นตัวของตัวเอง พ่อเคยบอกว่า มนุษย์เรานั้นมีตัวตนอยู่สามแบบ แบบแรกคือการเป็นในสิ่งที่ ‘เราอยาก เป็น’ อย่างคนอื่นๆ อย่างที่สองคือการเป็นในสิ่งที่ ‘คนอื่นต้องการ’ เห็น เราเป็น และอย่างสุดท้ายที่เราแทบไม่มีเวลาศึกษาอย่างจริงจัง นั่นก็คือการ เป็นในสิ่งที่ ‘ตัวเราเป็นจริงๆ’ โดยไม่มีปัจจัยใดๆ มาบังคับกะเกณฑ์ แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าการเดินทางหาตัวเองนั้น ที่จริงแล้วมันก็ยาก มากๆ เหมือนกันนะ ในการเดินทางหลายครั้งหลายหนที่เราเสียใจในการ ตัดสินใจจากมาในวันนั้น มากมายที่เราหลงทาง และอีกนับไม่ถ้วนที่ต้อง ทรุดลงนั่งอย่างท้อใจเพราะเดินมาเจอกับทางตัน การเดินทางเพียงลำพัง ไม่ได้สนุกตื่นเต้นเพียงอย่างเดียวไปได้ตลอด ณ อายุ 19 ปี เรามีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า Siddhartha (สิทธารถะ) ซึ่งเขียนโดยนักเขียนระดับรางวัลโนเบลสาขา วรรณกรรมชื่อ เฮอร์มานน์ เฮสเส มีประโยคหนึ่งที่เราจำได้ขึ้นใจว่า “Perhaps you seek too much, that as a result of your seeking you cannot find.” บางครั้งเราอาจจะ ‘ตามหา’ จนมากเกินไป มากจน ผลของการตามหานั้นคือเราไม่อาจค้นพบอะไรเลย ประโยคนั้นทำให้เราได้คิดว่า ที่ผ่านมา เราได้แต่ก้าวพรวดๆ ไป ข้างหน้า วิ่งตามหา ‘ตัวตน’ ของตัวเองอย่างสะเปะสะปะ โดยไม่ได้รู้สึกตัว เลยว่าที่จริงแล้วเราแค่ต้องให้ ‘เวลา’ กับตัวเองบ้าง หยุดวิ่ง นั่งลงฟังเสียง ลมหายใจ และมองให้เห็นถึงสิ่งอันดีงามมากมายรอบๆ ตัว แล้วสักพัก เสียงแห่งตัวตนนั้นก็จะกระซิบเบาๆ ส่งสัญญาณบางอย่างมาให้เราได้ยินเอง นั่นแหละ ไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วนักก็ได้ และก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งแข่งกับใครๆ เราอาจจะแตกต่างที่วิ่งได้แค่ก้าวสั้นๆ และอาจไปในระยะทางที่ไม่ไกลเท่า คนอื่นๆ แต่เราอยากมีความสุขกับการวิ่งนะ อยากมีเวลาชื่นชมเส้นทางที่ ออกวิ่งไป ทั้งที่บางครั้งมันอาจจะไม่ได้สวยหรูเท่าไหร่ แต่อย่างไรนี่ก็คือสิ่งที่ โลกกลมๆ ใบนี้หยิบยื่นมาให้ ให้กับเส้นทางชีวิตที่เราเลือกเอง ณ อายุ 20 ปี หนังสือชื่อ Happier โดยดอกเตอร์ทาล เบน-ชาฮาร์ สอนให้เราเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆ ในแต่ละวันด้วยความรัก และรู้จักมีความ สุข ให้ความสุขเป็นทั้งเป้าหมาย เป็นทั้งวิถีทาง เป็นจุดศูนย์รวมของความ ต้องการและเส้นทางทั้งหลายในชีวิต โลกงดงามเสมอ และไม่ว่าสิ่งใดเกิด ขึ้นแล้ว สิ่งนั้นย่อมดีเสมอ เส้นทางต่อจากนี้ เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แม้ทุกวันนี้เรา ก็ยังหลงทางอยู่บ่อยไป แต่ชีวิตก็แบบนี้ สุขทุกข์ปนกันไป สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเราต้องแน่ใจว่าเฉลี่ยแล้วเราสุขมากกว่าทุกข์ และรู้จักที่จะฟื้นตัวจาก อาการป่วยทางใจด้วยตัวเองให้เร็วที่สุด แต่สิ่งที่ดีที่สุดในการเดินทางตลอด ระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาได้สอนเราก็คือ ความสุขเป็นเรื่องง่าย หากความ ต้องการของเรานั้นง่าย และมีขีดของความเพียงพอ สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของ เรา ก็คือโอกาสในการเดินทางเพื่อเข้าใจตัวเอง และมันก็แปลกที่ระหว่างทำความรู้จักตัวเอง เราก็เริ่มรู้จัก “โลก” ภายนอกมากขึ้นตามไปด้วย ทีละเล็กทีละน้อย สะสมไปเรื่อยๆ เหมือน ระยะทางที่เราค่อยๆ วิ่งผ่านเลยไป เรื่องราวระหว่างทางนั้น เราจึงเก็บ เกี่ยวมาเพื่อเล่าให้ฟัง และอยากชวนให้มาลองเดินทางไปด้วยกันนะคะ

Related products

Review score from buyers

0 Full 5 Star
0 People
0
0
0
0
0