ในโลกปัจจุบันที่ท่วมท้นไปด้วยกระแสของข้อมูลข่าวสาร และเวลามีค่าดั่งเงินทอง ผู้คนจึงขวนขวายหาหนทางที่จะย่นระยะสู่ความสำเร็จให้ได้เร็วที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด สร้างผลิตภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีการเหล่านั้นอาจเรียกสั้น ๆ ว่า "การแฮ็กชีวิต" (life hacking) หรือกิ่งก้านหนึ่งของแนวคิดการพัฒนาตัวเอง (Self-help) ที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกัน ซึ่งทรงอิทธิพลในระดับโลก
หนังสือเล่มนี้แบ่งแนวคิดการแฮ็กชีวิตออกเป็นด้านต่าง ๆ ได้แก่
1. การแฮ็กเวลา จะทำอย่างไรให้เราใช้เวลาได้คุ้มค่าที่สุดในแต่ละวัน ทำอย่างไรให้เราทำงานได้มากที่สุดในระยะเวลาอันมีจำกัด
2. การแฮ็กแรงจูงใจ กลวิธีคงแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ไว้ได้จนสำเร็จโดยไม่ละทิ้งความพยายามไปเสียก่อน
ตั้งแต่ความสำเร็จระดับธรรมดาจนถึงระดับบ้าคลั่ง
3. การแฮ็กข้าวของ เส้นทางสู่ความเป็นมินิมอลิสต์ จะทำอย่างไรให้เราใช้ชีวิตอยู่โดยพึ่งพาสิ่งของต่าง ๆ
ให้น้อยที่สุด เหลือไว้เพียงสิ่งที่จำเป็น และของที่ดี มีคุณภาพเท่านั้น
4. การแฮ็กสุขภาพ จากการมีสุขภาพดีทั่วไปสู่การเป็นอภิมนุษย์
เพื่อทำลายขีดจำกัดของร่างกายและสมองด้วยอาหารเสริม ยาวิเศษ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
5. การแฮ็กความสัมพันธ์ เปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นหนุ่มสาวที่ทรงเสน่ห์ ไม่ว่าใครก็มีความรัก
ความสัมพันธ์ดี ๆ ได้เมื่อใช้กลเม็ดเหล่านี้
6. การแฮ็กความหมาย กลับคืนสู่ชีวิตที่สงบสุขและจิตที่เปี่ยมสติ โดยใช้แนวคิดปรัชญาต่าง ๆ เป็นเครื่องนำทางอย่างไรก็ตาม ในแต่ละบทของหนังสือได้นำเสนอด้านกลับของการแฮ็กชีวิตในแต่ละด้านอย่างสุดโต่งด้วยการตั้งเป้าหมายแบบขั้นสุด (optimal) และใช้เครื่องมือตรวจวัดและติดตามผลอย่างเข้มงวด จนบางครั้งอาจทำให้เกิดความเครียด สับสน หมกมุ่น กังวล กลับรู้สึกไร้อิสรภาพและความสุข
การแฮ็กชีวิตให้อะไรกับเราบ้าง และพรากอะไรจากเราไป เมื่อเราต้องการเป็นที่สุดในแต่ละด้าน (เช่น ใช้เวลาได้มีประสิทธิภาพที่สุด สร้างผลิตภาพขั้นสุด มีสิ่งของน้อยที่สุด มีสุขภาพยอดเยี่ยมที่สุด มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด และมีชีวิตที่สงบสุขที่สุด) แล้วความสุขและความพอดีอยู่ตรงไหนกันแน่?