รุ่งอรุณแห่งมนุษยชาติ (THE DAWN OF EVERYTHING)

รุ่นแล้วรุ่นเรา บรรพบุรุษของมนุษย์มักถูกมองเป็นผู้บุกเบิกในสองลักษณะ คือถ้าไม่ออกแนวอิสรเสรีและบริสุทธิ์เหมือนเด็กๆ ก็จะถูกมองไปในทางอันธพาล ป่าเถื่อน ชอบสร้างสงคราม จากนั้นเราก็ถูกสอนมาโดยตลอดว่าอารยธรรมของเราเกิดขึ้นได้ด้วยการเสียสละและละทิ้งเสรีภาพอันดิบเถื่อนนั้น และทำให้สัญชาตญาณเราเชื่องลง อยู่รวมกันเป็นรัฐที่ใหญ่ขึ้นๆๆๆ และเป็นแนวทางความเจริญก้าวหน้าอย่างที่เราเข้าใจกัน แนวคิดนี้สอดคล้องในอารยธรรมหลักของซีกโลกเหนือ ทว่าไม่จริงเสมอไปในส่วนที่เหลือของโลก แต่เมื่อโลกาภิวัตน์ทำให้เราเดินรอยตามซีกโลกเหนือ (อเมริกาและยุโรป) ทำให้แนวคิดนี้ก่อร่างเป็นประวัติศาสตร์สำหรับทุกคนบนโลก

สองศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยา เดวิด เกรเบอร์ และเดวิด เวนโกรว์ จะพาเราไปสำรวจการตีความประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของสังคมมนุษย์ใหม่อีกครั้ง และจะทำให้เราประหลาดใจล้นพ้นกับวิธีที่เรามองประวัติศาสตร์ตัวเอง มองต้นกำเนิดของการเกษตรกรรม การมีทรัพย์สิน ประชาธิปไตย การค้าทาส และตัวอารยธรรมเอง โดยเขียนความเข้าใจใหม่ให้ประวัติศาสตร์มนุษย์กว่า 30,000 ปี ท้าทายสมมติฐานพื้นฐานที่สุดของเราด้านวิวัฒนาการสังคม จากการพัฒนาการเกษตรกรรม การสร้างเมือง จนถึงจุดเริ่มต้นของรัฐ ประชาธิปไตย ความไม่เท่าเทียม และเผยให้เราเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่จะปลดปล่อยมนุษยชาติในอนาคต

หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นจากงานวิจัยนานสิบปีด้านโบราณคดีและมานุษยวิทยา นักเขียนทำให้เราต้องตั้งคำถามว่า หากมนุษยชาติไม่ได้ใช้เวลา 95% ของช่วงวิวัฒนาการไปกับการเป็นนักเก็บของป่าล่าสุด และอยู่กันเป็นกลุ่มยิบย่อย พวกเราจะทำอะไรกันอยู่ และการเกษตรและการสร้างเมืองไม่ได้พาเราถลำลงในสังคมที่แบ่งชนชั้นและการครอบงำอำนาจ โครงสร้างสังคมและเศรษฐกิจของเราจะเป็นอย่างไร หนทางอื่นเป็นไปได้ไหม ทำไมโลกต้องวิวัฒน์ไปในหนทางเดียว คำตอบที่วิเคราะห์นี้น่าตื่นเต้นทีเดียว และทำให้เราสัมผัสได้ว่า ประวัติศาสตร์ของมนุษย์หาได้ถูกทำนายไว้แล้วในหลักศิลาไม่ หากแต่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่น่าสนุก เปี่ยมความหวังกว่าเราคาดคิด

The Dawn of Everything เปลี่ยนแปลงความเข้าใจอดีตของพวกเราในระดับรากฐาน และมอบหนทางใหม่ๆ สู่อิสรภาพในรูปแบบใหม่ การจัดระเบียบสังคมใหม่ นี่คือหนังสือเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับปัญญาชนแห่งอนาคต ขับเคลื่อนด้วยความสงสัยใคร่รู้ ทัศนะทางศีลธรรม และศรัทธาในอำนาจแห่งการลงมือทำ