ราคารวม : ฿ 0.00
"คุณเกรซคะ ขอกาแฟหน่อยค่ะ"
เสียงของขวัญกวินเปิดประตูออกมากล่าววานของพชรที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องตัวเอง ทำให้พชรวางมือละสายตาจากงานตัวเองแล้วหันไปบอกกับขวัญกวินว่า
"บ่ายมานี้คุณดื่มไปสามแก้วแล้วนะ พอได้แล้วค่ะ ดื่มกาแฟเยอะมันไม่ดีต่อสุขภาพ"
"คุณห่วงฉันเกินหน้าที่แล้วนะคะ"
ก้มหน้ากล่าวบอกพชรที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานน้ำเสียงเรียบนิ่ง
โดนด่าเสือกโดยไม่พูดคำว่าเสือกมันรู้สึกแบบนี้นี่เอง
"โอเคค่ะ! ยังไงคุณขวัญก็ควรจะห่วงสุขภาพตัวเองบ้าง"
เดินไปชงกาแฟให้ตามคำสั่งของขวัญกวินแล้วเอาเข้าไปให้เธอในห้องทำงานของเธอจากนั้นก็เดินกลับออกไป
"ขอโทษนะเมื่อกี้..! ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงแต่ฉันต้องช่วยทุกคนออกแบบงานให้เสร็จทันตามกำหนด"
"ไม่เป็นไรค่ะ แต่ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย"
"สิบสองชิ้นภายในหนึ่งเดือน"
"ถ้าแบบนี้ยังไงก็ไม่ทัน..ใช้งานกันหนักมากเลยนะแบบเนี้ย ทำไมคุณต้องทุ่มเทกับมันขนาดนี้"
พชรขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยขึ้นมา เพราะตั้งแต่เข้ามาทำให้ขวัญกวินก็เห็นเธอเอาแต่นั่งทำงานแทบจะไม่พักบ้างในขณะที่ผู้บริหารหลายๆคนกลับทำตัวชิวๆสบายๆ แทบจะไม่มีงานอะไรให้ดูหรือทำเลยสักอย่าง
"มีหลายชีวิตที่ฉันต้องรับผิดชอบ คุณกลับไปเถอะ ถึงเวลาเลิกงานแล้ว"
ขวัญกวินพูดดังนั้นพชรก็เหลียวมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง
"งั้นคุณเองก็ควรจะกลับเหมือนกัน"
"ฉันจะอยู่ทำงานอีกสักหน่อย"
"งั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อน คุณสั่งฉันไม่ได้แล้ว เพราะหมดเวลางานแล้ว"
พชรพูดดักคอขวัญกวินเพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องปฏิเสธคำบอกกล่าวของตัวเองเป็นแน่
"ตามสบายเลยละกันค่ะ"
ก้มหน้าทำงานต่อไป
"นี่ไม่ใช่กาแฟที่ฉันขอนี่"
"นมฉันเอง ดื่มนมดีกว่านะ ดีต่อสุขภาพ.."
กล่าวบอกขวัญกวินพร้อมยกกล่องนมเปล่าให้เธอดูก่อนที่จะเดินอ้อมไปหลังโต๊ะทำงานแล้วหยุดยืนอยู่ข้างเธอ
"คุณกลับบ้านช้าพ่อแม่จะไม่ห่วงหรอ"
กล่าวบอกเพื่อให้ขวัญกวินนึกคิดถึงพ่อแม่ที่รออยู่ที่บ้าน
"ไม่ห่วงหรอก"
เธอไม่รีรอตอบกลับพชรโดยไม่ต้องคิด
"พ่อแม่ที่ไหนจะไม่ห่วงลูก"
พชรพูดเปรียบเปรยด้วยเป็นห่วงเจ้านายที่ไม่ยอมกลับบ้านทั้งที่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว
"ท่านเสียหมดแล้ว"
เงยหน้ากล่าวบอกแล้วก้มลงทำงานต่อ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"......เสียใจแล้วขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่รู้.."
"ไม่เป็นไร"
ขวัญกวินพูดดังนั้นพชรก็ถือวิสาสะเดินอ้อมไปด้านหลังของเธอแล้วยื่นมือลงไปจับเมาท์ปากกาในมือของขวัญกวิน
"คุณจะทำอะไร.."
"ฉันว่าแทนที่จะวาดเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนทับธรรมดา ตัดมุมเป็นสามเหลี่ยมจะไม่ดีกว่าหรอคะ"
จับมือขวัญกวินวาดในรูปแบบที่ตัวเองบอกกับเธอ
"มันดูโอเคขึ้นมาเยอะกว่าเดิมเลยอ่ะ ขอบคุณนะคะ"
หันหน้าไปบอกพชรด้วยไม่รู้ว่าเธอก้มหน้าลงมาอยู่ใกล้ๆหน้าตัวเอง จนกลายเป็นว่าตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกันแค่ปลายจมูกโด่งเท่านั้น
"ขอโทษค่ะ!!"
รีบถอนตัวถอยห่างออกมาจากขวัญกวินในทันที
"ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ คุณช่วยได้เยอะเลย ฉันนั่งเครียดอยู่ตั้งนานว่าจะทำไงให้ไม่ซ้ำอันเดิม"
"ถ้าไม่ไหวก็พักแล้วค่อยทำต่อ จะได้ไม่เหนื่อยสะสม"
กล่าวบอกกับขวัญกวินด้วยน้ำเสียงสีหน้าและท่าทางที่เป็นห่วงเธอเป็นอย่างมาก
"สรุปใครเป็นเจ้านายลูกน้องกันแน่คะเนี่ย"
"ตอนนี้ไม่มีค่ะ มีแค่..เพื่อน ถ้าคุณไม่รังเกียจกันละก็เรามาเป็นเพื่อนกันนะคะ"
ส่งยิ้มอ่อนๆเพื่อผูกมิตรกับเจ้านายสาวแล้วยื่นมือไปขอจับมือ แล้วขวัญกวินก็ยื่นมือขึ้นไปจับพร้อมรอยยิ้ม
.
.
18:35 น.
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง.."
"อย่าเอาแต่ทำงานนะคะ พักผ่อนให้มากๆ ไปละค่ะ"
"เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ"
ส่งยิ้มให้กันและกันก่อนที่จะเดินแยกทางกันไปคนละทาง
เมื่อขวัญกวินขึ้นมาจนถึงห้องของตัวเองก็ไปเปิดตู้เย็นหาอะไรทาน
"ไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้มาหลายปีแล้วแฮะ"
พูดกล่าวกับตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะหยิบกล่องเนื้อสดออกมาจากช่องฟรีซมาทำอาหารทาน และในระหว่างที่ทำก็นึกถึงตอนที่ตัวเองหันหน้าไปใกล้กับหน้าของพชรไปด้วย
"ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้กันนะ"
ยิ้มกว้างแทบไม่หุบไปเรื่อยๆจนทำอาหารเสร็จก็เดินไปจัดจานแล้วนั่งทานคนเดียวจนเสร็จก็ยังคงคิดถึงเสียงพูดและภาพของพชรเมื่อตอนเย็น แต่ก็ต้องลุกเอาถ้วยจานไปล้างแล้วเข้าห้องนอนไปนั่งทำงานต่อสักพัก
'อย่าเอาแต่ทำงานนะคะ พักผ่อนให้มากๆ'
เสียงคำพูดของพชรที่พูดบอกกับเธอเมื่อตอนก่อนจะแยกจากกันทำให้เธอกดเซฟงานแล้วปิดเครื่องนอนตามคำบอกกล่าวของพชรในทันที
"อย่างน้อยก็เสร็จไปอีกชิ้น รวมเป็นสองชิ้น แล้วค่อยบอกทุกคนในทีมพรุ่งนี้"
พูดกล่าวบอกกับตัวเองก่อนที่จะหลับตาลงนอน
.
.
"กลับช้านะวันนี้ แล้วคืนนี้ไม่ออกไปไหนอีกหรอเรา.."
"ไม่ค่ะ..!!"
กล่าวตอบคำถามผู้เป็นพ่อแล้วก้มหน้าทานข้าวไปยิ้มไป
"เป็นอะไร ป๊าเห็นยิ้มไม่หุบตั้งแต่กลับถึงบ้านจนมานั่งทานข้าวแล้วนะ"
"เปล๊าา..! ไม่มีไรหรอกป๊าา.."
พชรรีบตอบปฏิเสธกลับไปด้วยเสียงสูง
"โกหก..อาการแบบนี้มีความรักชัวร์"
"ก็ไม่เชิงอ่ะป๊าา..ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้กับใครมาก่อนเลยอ่ะ"
พชรตอบยอมรับไปตามตรงเมื่อถูกผู้เป็นพ่อจับจุดได้ อมยิ้มแล้วสักข้าวในจานใหญ่อย่างเก้อเขิน
"ใคร..!"
กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
"เจ้านายที่ทำงาน"
"ถ้าชอบก็จีบเลย ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง"
"จะดีหรอป๊า..เจ้านายเกรซเลยนะ"
พชรกล่าวถามด้วยรู้สึกหวาดหวั่นใจเพราะอีกฝ่ายคือเจ้านายตัวเองที่ต้องทำงานด้วยทุกวันทำงาน
"ถ้าไม่กล้าระวังคนอื่นจะคาบไปกินซะก่อนนะ"
"ค่อยๆเป็นค่อยๆไปละกัน"
"ได้คบเมื่อไหร่พามาให้รู้จักด้วย"
เดินออกจากครัวแล้วกลับขึ้นไปบนชั้นสอง ส่วนพชรก็นั่งทานข้าวต่อไป
.
.
เช้าวันต่อมา..
"สองงานนี้ผมขอก่อนเที่ยงนะคุณเอกราช.."
"ครับบ! ท่านประธาน.."
ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานบริษัทส่งยื่นงานเอกสารพร้อมสั่งงานแล้วก็เปิดกลับเข้าไปในห้องทำงาน ผ่านไปได้ไม่นานก็กลับออกมาอีกครั้ง
"ผมจะออกไปข้างนอก เสร็จแล้วก็เอาเข้าไปไว้เลยนะ"
เขากล่าวบอกแล้วเดินจากไปแต่ยังไม่ถึงนาทีพชรก็เดินเข้ามาหาเลขาของเขา
"ทิ้งงานให้เลขาทำแทน เงินเดือนผู้บริหารสูงขึ้นทุกปีในขณะที่พนักงานระดับล่างมีเรทเงินเดือนเฉลี่ยแล้วปีละเท่าเดิมในทุกๆปี"
"รู้ได้ไง.."
"เก่งมั้งเจ้..เจ้ทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วล่ะ"
"จะหกปีเล่า"
ชายหนุ่มเลขาพูดไปก็ยังก้มหน้าทำงานต่อไปโดยไม่หันไปมองหน้าคู่สนทนาเลย
"แล้วเงินเดือนเท่าไหร่ ได้เพิ่มขึ้นมั้ย"
"สามหมื่นสี่เท่าเดิมทุกปี"
"ทั้งที่เป็นถึงเลขาประธานแต่เงินเดือนกลับเท่านั้นตลอด"
พชรกล่าวแล้วส่ายหน้าให้กับจำนวนเงินเดินของรุ่นพี่ตัวเอง
"แกจะสื่อถึงอะไร"
เงยหน้าขึ้นถาม
"ใช้งานเราหนักขนาดนี้แต่ให้เงินเดือนเท่าเดิม ก็หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไง"
ฉีกยิ้มมุมปากเหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่ภายในใจ
"นี่แกอย่าไปพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินนะ ถ้ามีใครได้ยินเข้าแกได้หมดอนาคตแน่"
พูดกล่าวตักเตือนพชรแต่มีหรือที่พชรจะใส่ใจกับคำพูดตักเตือนนั้นของเขา
"ประเทศไทยเป็นแบบนี้น่ะหรอ"
พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานเพื่อเอาแฟ้มงานเอกสารไปวางไว้แล้วเดินอ้อมไปหลังโต๊ะทำงาน
"อีกไม่นานเก้าอี้ตัวนี้จะกลายเป็นของฉัน"
เผยยิ้มมุมปากออกมาแล้วจ้องมองไปที่รูปถ่ายครอบครัวของเจ้าของห้องทำงานนี้
.
.
"ทำต่อตรงนี้ทีค่ะ นึกอะไรได้ใส่เพิ่มเติมลงไปเลยนะคะ"
ขวัญกวินนั่งและเดินดูและทำงานกับลูกทีมของตัวเองไปเรื่อยๆแทบจะไม่หยุดพัก แต่แล้วเธอก็กล่าวบอกกับลูกทีมให้มาช่วยทำงานต่อจากตัวเอง แล้วจากนั้นก็ลุกเดินออกไปด้านนอกห้องออกแบบชิ้นงาน เดินกลับไปที่ห้องทำงานของตน แต่ระหว่างทางก็ไปพบกับเนตรนภาซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษากำลังถือเอกสารลงลิฟต์ไปชั้นลง พร้อมกับเพื่อนของเธอที่เดินมาด้วยกันอีกคน ขวัญกวินจึงรีบเข้าไปช่วยเพราะเอกสารบนมือของเนตรนภามีเยอะเกินไป
"เนตรฟ้า..เดี๋ยวพี่ช่วย"
"ขอบคุณค่ะ!!"
เนตรนภากล่าวแล้วขวัญกวินก็แบ่งเองเอกสารมาจากเธอและเพื่อนแล้วพากันเข้าไปในลิฟต์
"แล้วนี่จะเอาเอกสารเยอะแยะพวกนี้ไปไหน"
ขวัญกวินกล่าวถามเธอทั้งสองคน
"เอาลงไปจ่ายให้แผนกต่างๆข้างล่างค่ะ"
"เยอะขนาดนี้ทำไมไม่มีคนช่วย.."
"เราสองคนอาสาเองค่ะ เห็นทุกคนกำลังยุ่งๆกันอยู่"
เพื่อนของเนตรนภากล่าวบอกแล้วทั้งสามก็เดินออกจากลิฟต์และช่วยกันแจกจ่ายเอกสารให้กับแผนกต่างๆ หลังจากแจกจ่ายเสร็จเรียบร้อยเนตรนภาก็เดินเข้าไปหาขวัญกวินในทันที
"ตอนเที่ยงไปทานข้าวกันมั้ยคะ"
"พี่ต้องอยู่ทำงานกับทีมงานของพี่น่ะ"
"หูวว! น่าเสียดายจัง ตั้งแต่พี่ย้ายออกจากบ้านไปก็แทบไม่ได้ทานข้าวด้วยกันเลย"
แสดงสีหน้าเสียใจและงอนขวัญกวิน
"เอาไว้คราวหน้าละกัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"
"โอเค..! ตามนั้นก็ได้ค่ะ"
เมื่อได้รับคำตอบดังนั้นแล้วขวัญกวินก็เดินแยกกลับเข้าไปในลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนแล้วเดินไปที่ห้องทำงานจากนั้นก็หยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานของพชรซึ่งเป็นเลขาตัวเอง
"คุณเกรซ คุณทำงานที่ฉันสั่งเสร็จรึยังคะ"
"อีกแค่หน้าเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ"
"ถ้างั้นฉันวานคุณไปเอาไอแพดที่คอนโดฉันหน่อยได้มั้ยคะ"
"คุณไว้ใจฉันหรอ ฉันพึ่งมาทำงานกับคุณเองนะ"
"เปล่าค่ะ!"
เมื่อพชรกล้าถามขวัญกวินก็กล้าตอบกลับไปตามตรง
"ถ้างั้นคุณก็ควรจะไปเอง ไม่ควรใช้ใครทั้งที่ยังไม่รู้จักเค้าดีพอนะคะ"
"ดูคุณแล้วคุณไม่น่าจะเป็นคนไม่ดี คงไม่ทำไรพันนั้นหรอกค่ะ"
"ฉันไปเอาให้ก็ได้ค่ะ ขอคีย์การ์ดห้องด้วยค่ะ"
พชรกล่าวขอคีย์การ์ดห้องแล้วขวัญกวินก็หยิบยื่นคีย์การ์ดห้องตัวเองให้
"ชั้นหกห้องหกหนึ่งสองสี่ค่ะ"
ขวัญกวินกล่าวบอกแล้วพชรก็รีบจัดเก็บของและงานบนโต๊ะแล้วลุกเดินไปเอาของที่คอนโดของขวัญกวินตามที่เธอไหว้วาน
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงพชรก็กลับมาพร้อมสิ่งของที่ขวัญกวินไหว้วานให้ไปเอา แล้วเอาไปให้เธอที่ห้องออกแบบเครื่องประดับ และเวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆจนถึงเวลาเลิกงานทุกคนก็ทยอยกลับบ้านกันเรื่อยๆ แต่พชรก็ยังไม่กลับเพราะยังไม่เห็นเจ้านายตัวเองออกมาจากบริษัท จึงได้ยืนรออยู่ด้านหน้าบริษัทจนประธานบริหารสูงสุดของบริษัทนี้เดินออกมา
"ทุกคนกลับไปหมดแล้วนะทำไมเธอยังไม่กลับอีกล่ะ"
เขากล่าวถามพชรอย่างสงสัยเพราะเห็นเธอยืนอยู่หน้าบริษัทไม่ไปไหนด้วยเหมือนยืนรอใครสักคน
"ยังกลับไม่หมดทุกคนค่ะ"
"นี่เลิกงานแล้วจะมีใครอยู่ได้ไง"
"คุณขวัญกวินเจ้านายฉันยังไม่ออกมาเลยค่ะ ฉันก็เลยยืนรอเธอ.."
"ทำไมขวัญถึงยังไม่ออกมา"
"คำถามนี้ท่านประธานควรถามตัวเองมากกว่านะคะว่าทำไม.."
จ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาของประธานบริษัทที่ทำงานอยู่อย่างไม่ยำเกรงหรือเกรงกลัวเขาแต่อย่างใด
"เธอเป็นแค่พนักงานไม่มีสิทธิ์ถามฉันแบบนี้ พูดแบบนี้ไม่กลัวโดนไล่ออกรึไง"
กล่าวบอกกับพชรสีหน้าค่อนข้างจะไม่พอใจในคำพูดของเธอ
"ตอนนี้ไม่ใช่เวลางาน ทุกคนเท่ากันไม่มีลำดับขั้นค่ะ ที่คุณขวัญกวินยังไม่ออกมาเพราะเกิดจากงานที่ถูกสั่งเร่งรัดเกินไป ทั้งที่เครื่องประดับชิ้นนึงกว่าจะออกแบบได้มันต้องใช้ระยะเวลาค่ะ"
เมื่อได้ฟังดังนั้นแล้วเขาก็เดินกลับเข้าไปด้านในสักพักก็เดินออกมาพร้อมกับขวัญกวิน
"ทีหลังอย่าอยู่ทำงานเกินเวลาอีกนะ คราวหลังเลขาใหม่เราจะได้ว่าอาไม่ได้"
ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานบริษัทกล่าวบอกขวัญกวินต่อหน้าพชรแล้วเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน
"คุณไปพูดอะไรกับท่านประธานคุณเกรซ.."
"ก็พูดไปตามความจริงที่ฉันรู้และเห็นจากคุณมา"
"ขอบคุณนะคะ คุณใจกล้ามากเลย ท่านประธานสั่งลดจำน้ำเครื่องประดับลงให้เหลือเก้าชิ้น"
แสดงสีหน้ายิ้มแย้มขอบคุณพชรจากใจจริง เพราะพชรช่วยให้เธอโล่งไปได้อีกเปลาะนึง
"เก้าชิ้น..! อย่างน้อยก็ลดลงมาสามชิ้น"
"ให้ฉันเลี้ยงข้าวเย็นคุณเป็นการตอบแทนนะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจคุณขวัญเปล่าๆ"
พชรรีบตอบปฏิเสธขวัญกวินด้วยความเกรงใจเธอ
"ถ้าอย่างงั้นถ้ามีอะไรให้ช่วยให้บอกฉันนะคะ ฉันยินดีจะช่วยเหลือค่ะ"
"ถ้างั้นฉันขอจีบคุณได้มั้ย"
เธอเอ่ยปากขอจีบขวัญกวินโดยตรง แต่กลับมีเพียงแค่ความเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
"คุณณ..!"
"ที่จริงฉันอยากเป็นมากกว่าเพื่อนกับคุณ ฉันรู้สึกชอบคุณตั้งแต่วันที่ฉันมาสัมภาษณ์งานแล้วเจอหน้าคุณตอนที่เราเดินสวนทางกันที่นี่ตรงนี้แล้ว ฉันไม่สนว่าคุณเป็นเจ้านายและไม่สนว่าคุณมีคู่หมายหมั้นกับท่านรองรึเปล่า แต่เพราะฉันรับรู้ได้ว่าคุณไม่ได้มีใจให้กับท่านรอง ฉันจึงอยากจีบคุณ"
"ถ้าคุณจีบฉันติดนะคะ"
ขวัญกวินกว่าแล้วเผยยิ้มอ่อนๆออกมาก่อนที่จะรีบเดินไปยังลานจอดรถแล้วขึ้นรถไปนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในรถคนเดียวอย่างเก้อเขิน แต่พชรก็วิ่งตามไปแล้วเคาะกระจก เธอจึงลดกระจกลงมา
"ฉันไปส่งค่ะ"
.
.
เวลาเดินผ่านไปหลายวันพชรยังคงจีบและคอยใส่ใจดูแลขวัญกวินอยู่เรื่อยๆในตอนที่อยู่นอกเวลางานหรือช่วงพักงาน แต่ต้องคอยระวังไม่ให้มีใครเห็นหรือสังเกตการกระทำที่ผิดแปลกไปกว่าปกติที่เจ้านายกับลูกน้องมีต่อกัน เพราะไม่ต้องการให้ใครมานินทาเอาได้ด้วยจะทำให้ตัวขวัญกวินเสื่อมเสียทางด้านชื่อเสียงเอาได้
ในช่วงเวลาขณะหนึ่งในการทำงานพชรได้ลุกออกจากโต๊ะทำงานเดินไปทางห้องออกแบบเครื่องประดับ ก็เดินไปเจอกับเนตรนภาและเพื่อนของเธอเดินถือกล่องบรรจุเอกสารคนละสองกล่องผ่านมา
"ถืออะไรมาเยอะแยะคะเนี่ย"
พชรเดินเข้าไปหาแล้วกล่าวถาม
"พี่เกรซ..! คือเราสองคนกำลังเดินเอาเอกสารเก่าไปไว้ในห้องเก็บเอกสารน่ะค่ะ"
"แล้วก็ไปเอาเอกสารด้วย"
เพื่อนของเนตรนภาพูดเสริม
"ถ้างั้นพี่ช่วยนะ ท่าจะหนักน่าดู.."
ว่าแล้วก็แบ่งเอากล่องบรรจุเอกสารจากเธอทั้งสองคนมาคนละกล่องโดยไม่รอฟังคำยินยอม จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปยังห้องเก็บเอกสารแล้วเอากล่องเข้าไปวางเก็บไว้ และในจังหวะที่เดินเอาเข้าไปเก็บขวัญกวินก็เดินมาเห็นจึงได้เดินตามมาดู
ในจังหวะที่เปิดประตูเข้าไปดูก็เห็นพชรกำลังยืนประกบข้างและยื่นมือขึ้นไปหยิบเอาแฟ้มเอกสารลงมาให้เนตรนภาในระยะประชิด เนตรนภาก็ได้เงยหน้าหันขึ้นไปมองหน้าพชร และในขณะเดียวกันก็เป็นเหตุให้ทันสองคนยืนสบตากันแล้วพชรก็ส่งยิ้มอ่อนๆให้ แต่แล้วก็ถอนตัวถอยห่างออกมาแล้วลงมอบแฟ้มเอกสารนั้นให้กับเนตรนภา
"เสร็จแล้วพี่ไปก่อนนะคะ"
เดินออกไปเปิดประตูแล้วพบกับขวัญกวินที่ยืนอยู่หน้าห้อง
"เมื่อกี้..เห็นรึเปล่า"
"ถ้าจะบอกว่าไม่เห็นก็คงจะตอแหลนะคะ"
"มันไม่มีอะไรเลยนะคะ แค่.."
"ฉันรู้ค่ะ ฉันไม่ใช่คนไร้เหตุผลและงี่เง่าหรอกนะ"
กล่าวจบก็เดินก้าวเท้าเดินไปจากหน้าห้องเก็บเอกสารโดยมีพชรเดินตามหลังไปตามสถานะในที่ทำงาน
.
"แก.....! พี่เค้ายิ้มและมองแกแบบนั้นด้วยอ่า"
เพื่อนของเนตรนภากล่าวพร้อมเดินเข้าไปยืนใกล้ๆเธอ
"ไม่มีอะไรมั้งง!! คิดมาก.."
เนตรนภากล่าวตอบแล้วหน้าเริ่มแดงระเรื่อ
"ไม่มากเว้ย สายตาแบบนั้นน่ะ ฉันว่าพี่เค้าต้องชอบแกแน่ๆ"
"ไม่มั้งฟ้า.."
หน้าแดงเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมแล้วรีบยกมือขึ้นมาปิดแก้มตัวเองไม่ให้ใครมองเห็น
"ไม่ชอบแต่หน้าแดงเลยนะแก ถ้าไม่ชอบพี่เค้าจะไม่หยุดค้างจ้องตากับแกขนาดนั้นเนตร ฉันสังเกตหลายครั้งแล้วเวลาเจอแก เชื่อฉัน..! พี่เกรซเค้าชอบแก.."
"แกคิดงั้นจริงๆหรอ"
เนตรนภากล่าวทวนถามเพื่อความแน่ใจ
"ใช่..! เซนส์ฉันบอกไม่ผิดแน่นอน"
.
"แล้วทำไงถึงได้มาช่วยแบบนี้ล่ะคะ"
ขวัญกวินกล่าวถามพชรที่เดินตามหลัง
"กะว่าจะเดินไปหาคุณที่ห้องออกแบบ จะไปถามว่าจะสั่งอะไรมั้ย"
"โทรมาก็ได้นี่"
หันหน้ากลับหลังแล้วเงยหน้าขึ้นบอกกับพชรในขณะที่กำลังเดินไปด้วยกัน
"อยากไปเจอหน้าไงคะ แล้วคุณขวัญล่ะคะ"
พชรกล่าวตอบคำถามแล้วเผยยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา
"จะเดินไปห้องท่านรอง เค้าโทรสั่งให้ไปหา"
"แล้วคุณก็ยอมไป.."
แสดงสีหน้าไม่เข้าใจในการกระทำของเธอ
"ทำไงได้ ตำแหน่งเค้าสูงกว่า.."
"สูงแต่ไร้ความสามารถ"
พชรกล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่งและเฉยชา ขวัญกวินเห็นดังนั้นก็ถามกลับไปว่า
"คุณพูดเหมือนไม่กลัวโดนไล่ออกเลยนะ"
"ถ้าโดนไล่ออกแสดงว่าเป็นความจริง เหมือนกินปูนร้อนท้อง แต่ถ้าไม่โดนไล่ออกก็เพราะไม่ใช่อย่างที่ฉันพูด"
พชรกล่าวตอบด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่หวั่นกลัวอะไรเลยทั้งสิ้น
"เป็นคนที่ตรงไปตรงมาดีจังนะ ดูไม่เกรงกลัวอะไรเลย"
"ทุกคนมีสิทธิ์พูดมีสิทธิ์วิจารณ์เท่าเทียมกัน"
เผยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
This website stores cookies to improve your website experience
Including allowing us to provide proposals Promotional activities Choose the content that suits you personally
Write comment