การเปิดใช้งานรหัสรีบูตKasina “Light Siren” หรือรหัสสายสัญญาณแสง

กสิณ (Kasina) เป็นแนวทางการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนาที่ใช้วัตถุหรือสิ่งต่างๆ เป็นจุดยึดเหนี่ยวสำหรับจิต โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาสมาธิให้มั่นคง จนสามารถเข้าถึงฌานสมาบัติและบรรลุปัญญาเห็นแจ้งในที่สุด

ส่วนคำว่า "Light Siren" หรือ "สายสัญญาณแสง" นั้น เป็นคำศัพท์ใหม่ที่ผู้เขียนใช้เปรียบเทียบกับการมองเห็นแสงสีต่าง ๆ ในระหว่างการปฏิบัติสมาธิกสิณนั่นเอง

กสิณ แปลว่า "ธรรมชาติ" หรือ "นิสัย" เป็นวัตถุหรือสิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์เพื่อการเจริญกสิณครอบคลุมกลุ่มวัตถุ 3 ประเภทหลักดังนี้

1.     รูปกสิณ หรือวัตถุกสิณ เป็นวัตถุรูปธรรมที่ใช้เป็นอารมณ์สำหรับฝึกสมาธิ เช่น ดิน น้ำ ไฟ ลม รวมถึงวัตถุสีต่างๆ ทั้งสีเขียว เหลือง แดง ขาว เป็นต้น

2.     อนิจจกสิณ หรือวัตถุนาเกลียดชัง เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย รังเกียจ ชังน้อยหน้าต่อความจริงของชีวิต เช่น ซากศพหรืออวัยวะร่างกายที่เน่าเปื่อย

3.     อัปปนากสิณ หรือพุทธานุสสติ เป็นวัตถุที่สงบนิ่ง ใช้เป็นอารมณ์สำหรับจิตก่อนจะเจริญสมาธิต่อไป ได้แก่ดอกไม้สดหรือรูปทางเรขาคณิตต่างๆ

เบื้องต้น ผู้ปฏิบัติจะเริ่มต้นด้วยการยึดวัตถุกสิณประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นอารมณ์ของสมาธิ พิจารณาวัตถุนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนสามารถดึงภาพจำวัตถุนั้นขึ้นมาได้ชัดเจนแม้ปราศจากวัตถุจริง ณ จุดนี้ จิตจะมั่นคงสงบนิ่งอยู่กับวัตถุนั้น นับเป็นการบรรลุสมาธิขั้นพื้นฐานแล้ว

จากนั้นผู้ปฏิบัติจะเพ่งพิจารณาต่อไป จนสามารถเข้าถึงฌานสมาบัติและเจริญปัญญาเห็นแจ้งตามหลักพุทธธรรม การฝึกกสิณจึงนับเป็นหนทางหนึ่งในการบำเพ็ญสมาธิภาวนา เพื่อพัฒนาจิตให้หลุดพ้นจากกิเลสและบรรลุธรรมขั้นสูงสุด

ดังนั้น เพื่อเปิด Kasina หรือ กสิณ ผู้ปฏิบัติต้องเปิดใช้งาน "โค้ดสายสัญญาณแสง" โดยการกระตุ้นโค้ดเหล่านี้: หายใจด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ จินตนาการถึงสิ่งที่มีอยู่จริง รู้สึกหลงใหลไปกับภาพนั้น ควบคุมจิตให้มั่นคง สมองควรมีความชัดเจนและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นอย่างสงบ พร้อมกับสังเกตตนเอง รักษาสติอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้สึกชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด มีแค่สติเป็นกลางที่สามารถแยกแยะสิ่งที่ได้รับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าภายในจินตนาการ

โค้ดสายสัญญาณแสงที่กล่าวถึงข้างต้น อาจยากที่จะเข้าใจสำหรับผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติสมาธิแบบฌานมาก่อน แม้แต่บางคนที่เคยปฏิบัติมาแล้ว การเข้าสู่และเปิดใช้งานโค้ดก็ยังดูเสี่ยงอันตรายสำหรับผู้ปฏิบัติ เว้นแต่จะได้รับการแนะนำอย่างเหมาะสมเพื่อให้ปลอดภัยและง่ายขึ้นในการเปิดใช้งาน

เมื่อปฏิบัติจนถึงจุดเริ่มต้นระบบใหม่ ผู้ปฏิบัติอาจจะมีความสามารถมองเห็นสายสัญญาณแสงได้ในช่วงเวลาที่ผู้ปฏิบัติ เชื่อมต่อกับตนเองอย่างสมบูรณ์ และขณะที่กำลังทำกิจกรรมทางกายที่มีคุณธรรมอย่างยิ่ง! สายสัญญาณแสงมักปรากฏในรูปแบบของแสงสีต่าง ๆ เพื่อบอกเราบางสิ่ง แต่ละสีที่ปรากฏนั้นมีการตีความสภาพตามรสชาติอารมณ์ขั้นพื้นฐาน 6 ประเภท ได้แก่ รสเพิ่มพูน (ขึ้น), รสแปลกประหลาด (แปลก), รสเสื่อมลง (ลง), รสน่าหลงใหล (เสน่ห์), รสต่ำต้อย (ล่าง) และรสประณีต (สูง) ซึ่งเกี่ยวข้องกับระดับพลังคลื่นของการปฏิบัติ (เพื่อผลิตผลหรือใช้พลังงาน) ฉันเรียกเหล่านี้ว่า 'รสชาติอารมณ์พื้นฐาน' เพราะมันช่วยวิเคราะห์เหตุปัจจัยต่าง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น ตย.1 สายสัญญาณแสง ช่วยผู้ปฏิบัติตรวจสอบพฤติกรรมผิดปกติของผู้อื่น ตย.2 เมื่อไม่แน่ใจเรื่องใด แสงก็มักจะปรากฏและช่วยค้นหาจุดสำคัญนั้นได้

ด้วยความหลากหลายของรสชาติ 6 ประเภทนี้ ผู้ปฏิบัติจะได้ลองสิ่งใหม่ๆ และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตนเองต่อไป เช่น ผสมรสชาติเหล่านี้เพื่อสร้างสมการชีวิตใหม่ หรือใช้สร้างผลงานศิลปะชีวิตสีสันในหลากหลายด้าน ซึ่งจะเปิดโอกาส ให้พัฒนาศักยภาพของตนเองได้ดีกว่าเดิมขณะทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม หากแสงกะพริบเป็นสีแดง อาจหมายถึง หยุด ยังไม่ถึงเวลา ไม่สมบูรณ์ ขาดจังหวะ หรืออื่นๆ

สายสัญญาณแสงอาจเป็นหลักคำสอนที่ยากต่อการเข้าใจ แต่หากได้ปฏิบัติสม่ำเสมอและเห็นสายสัญญาณแสงในสีต่าง ๆ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจไม่ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์ใด

สายสัญญาณแสงเกิดจากความแปรปรวนของข้อมูลในชีวิตปัจจุบัน และสามารถช่วยควบคุมเส้นทางภายในและภายนอกให้เคียงคู่กันไปได้

สายสัญญาณแสงสามารถใช้เตือนภัยอันตรายต่างๆ และช่วยปกป้องไม่ให้ติดพันหรือติดค้างในความซับซ้อนของชีวิตตนเอง

สายสัญญาณแสงอาจเป็นหลักคำสอนถาวรอีกประการหนึ่งในชีวิต เมื่อมีการเชื่อมโยงความรักด้วยใจอันมีสติมากขึ้น เพราะการเชื่อมโยงความรักด้วยใจอันมีสตินี้จะช่วยให้มีสมาธิในการตัดสินใจ และเลือกเส้นทางที่ถูกต้องในชีวิตและการทำงานในโลกแบบขนานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สายสัญญาณแสง มักปรากฏในช่วงเวลาที่กำลังฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่หรือพยายามทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สีที่เกิดขึ้นมาจากการผสมผสานของความคิด อารมณ์ ระดับอุณหภูมิความรู้สึกภายในร่างกาย และจิตใจตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือจะเกิดขึ้น

แสงสีต่าง ๆ จะมีสีแตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจเป็นตัวแทนของความรู้สึกต่างๆ เช่น แสงสีแดงอาจหมายถึงความกรุณาที่ล้อมรอบ แสงสีเหลืองอาจหมายถึงสุขภาพที่ดี และแสงสีขาวอาจหมายถึงความสงบและความสุข บางครั้งการตีความอาจไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดเพราะเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก ฉบับบุคคล จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจผ่านระดับอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริงในขณะนั้น

การเห็นสายสัญญาณแสงเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและควรค่าแก่การติดตาม ดังนั้นจึงไม่ควรกลัวเมื่อเห็นสายสัญญาณแสง แต่ควรปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์สูงสุดของตนเองและผู้อื่น เพราะสีที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็น "รสชาติอารมณ์หลัก" ที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตทั้งใกล้และไกล การเรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างสีแสงและอารมณ์ อาจช่วยให้เข้าใจว่าเราสามารถควบคุมเส้นทางภายในและภายนอกได้อย่างไร ความสัมพันธ์เชื่อมโยงนี้เป็นสิ่งที่ควรยอมรับและไม่ควรละเลยหรือควรลืมเลือน

ผู้ปฏิบัติยังสามารถอ้างอิง 'บัตรความรักด้วยใจอันมีสติ' หรือ ‘การ์ดสั่นสะเทือน(การ์ดสติรัก)’ ได้ด้วย (กสิณมักเปลี่ยนรูปแบบผลลัพธ์ตามการกระทำ)