ราคารวม : ฿ 0.00
(เดินทางระหว่างวันที่ 20 – 23 ตุลาคม และ 6-8 ธันวา 2564)
ผู้เขียน: ลุงกับป้าพาเที่ยว
วันหยุดยาวระหว่าง 20-23 ตุลาคมนี้ ได้ไป "ทัวร์บุญ” เตรียมทอดกฐินปี 2564 ต่อ ประกอบกับวัน พฤหัสบดีที่ 21 นี้ ออกพรรษา ทุกวัดจะจัดทอดกฐินยาวถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน เป็นวันสุดท้าย นักท่องเที่ยวไทย เริ่มเดินทางกันแล้ว เครื่อง Air Asia บินไปลงสุราษฎร์ธานีออก 11:40 น. มาตรการเข้มงวดมากตั้งแต่ check in ต้องแสดงว่าฉีดวัคซีนครบ (บางจังหวัดยังบังคับให้แสดงผลการตรวจ ATK ภายใน 72 ชม.ด้วย) สั่งอาหารบนเครื่อง ก็ห้ามทาน ต้องเก็บมาทานข้างล่าง
ถึงสนามบินสุราษฎร์ธานีต้องลงทะเบียน Save Surat อีก และแม้จะใช้โครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน” มี โรงแรมไม่กี่แหง่ ได้เข้าร่วมโครงการ ได้พักที่ B2 Premier ห้อง Presidentail Suite (มีโรงแรมในตัวเมืองสร้างใหม่ Evergreen ยังไม่เข้าร่วมโครงการไม่ได้) เรื่องนี้เปนเช่นเดียวกับร้านอาหารเลือกร้าน Lucky ร้านเก่าแก่ยอดฮิตติดอันดับของสุราษฎร์ แล้วก็ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) ซึ่งรับโอนโครงการจาก ธนาคารกรุงไทยคงจะต้องรีบอนุมัติให้เร็ว (!)
แต่เป้าหมายที่มาทริปนี้ก็รีบไปกราบขอพร "คุณไข่” วัดเจดีย์ อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช ห่างลงไปทาง ใต้ 93 กม คุณนนท์ ร้านโกจุยประทัด จัดประทัดให้จุด 100,000 นัด และชุดไหว้ มีน้ำแดง ขนมเปี๊ยะและไก่ ให้ด้วย ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์ โดยเฉพาะป้าแป้ว เที่ยวบินมาช้าเพราะเพิ่งจะเริ่มบิน ป้าแป้วจะจุดให้ 9:30 น เช้า วันรุ่งขึ้น วันนี้ได้ผูกผ้าปลายประทัดไว้ 10 ผืน และยังมอบธูปจะกลับไปจุดได้เลขอะไร จะส่งให้ท่านที่ขอเลขไว้ครับ
สำหรับเที่ยวบินที่ไปเฉพาะภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย 7 จังหวัด เท่านั้นที่ขณะนี้จะขอรับเงินคืนได้ 40%
แม้จะลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี ก็ยังได้เข้าวัดถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน (บัดกุเต๋ ข้าวต้มปลากะพง และติ่ม ซ า) 2 ชุด พร้อมปัจจัย ถวายแด่พระสงฆ์ ณ วัดธรรมบูชา และเข้าไปไหว้หลวงพ่อพัฒน์ฯ ซึ่งได้มรณภาพไปแล้ว ณ วัดพัฒนาราม
สำหรับอาหารเช้าวันนี้ที่ เสรีแต่เตี้ยม กลางเมืองสุราษฎร์ธานี
แวะทานข้าวกลางวันใช้คูปองอาหารที่ร้าน "บ้านไม้ไทยคาเฟ่” กับข้าวมีขนมจีนน้ำยาชุดเล็ก (มีน้ำยา 3 ชนิด) ปีกไก่ทอด และน้ำส้มสายน้ำผึ้งคั้นสดๆ ร้านนี้อยู่ที่อยู่ที่อำเภอท่าฉาง ระหว่างทางไประนอง ทางแยกจากทางหลวง 41 ผ่านอำเภอพะโต๊ะ ชุมพร และเข้าเขตระนองแล้ว
ขอขอบคุณ คุณ Grace Na Ranong หลานพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้) ต้นตระกูล ณ ระนอง เป็นผู้ แนะนำให้มาพักทโรงแรมฟาร์มเฮาส์ ผู้เขียนได้พบกับคุณ Grace ตั้งแต่ผมมีส่วนพัฒนาเมืองเก่าภูเก็ต และได้ไปร่วม พิธีเปิดอนุสาวรีย์ท่านคอซิมบี้ บนเขารัง คุณ Grace ยังได้เชิญผมไปร่วมงานรวมญาติที่ภูเก็ตอีกด้วย(!)
โรงแรมส่วนนี้เพิ่งจะสร้างได้ปีครึ่ง นอกจากจะทันสมัยที่สุดแล้ว ภายในห้องยังมีเครื่องฟอกอากาศด้วย บริเวณโรงแรมจะมีทั้งร้านอาหารฟาร์มเฮ้าส์ (เสียดายที่ยังไม่ได้เปิด) และร้านขายของที่ระลึก ก.ไก่ ด้วย
ถึงแม้โรงแรมฟาร์มเฮาส์ ที่พักจะเข้าร่วมโครงการ แต่ร้านอาหารขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดในระนองยังไม่เปิดขาย จึงต้องหาร้านที่ใช้คูปองได้ และก็ไม่ผิดหวัง เพราะร้าน "คุ้นลิ้น” ก็เป็นร้านดังของจังหวัดเช่นกัน และมีรายการ อาหารดังของจังหวัด วันนี้สั่งมาทั้งปลาหลุมพุกลุยสวน (มีเฉพาะที่ระนอง) หมูค้องระนอง ปลาทูทอดกะปิ ใบเหลียงผัดไข่ (ลงมือผัดเอง ร้านไม่คิดตังค์ 80 บาทครับ) และผลไม้รวม
ระนองเป็นแหล่งบ่อน้ำร้อนที่เปิดให้บริการทั้งที่บ่อน้ำร้อนพรรั้ง ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว (อุทยานยังไม่เปิด) และที่บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ที่ร้าน "คุ้นลิ้น" ตั้งอยู่
คราวที่เปิดประเทศครั้งนี้ รวมระนองด้วยเพราะโปรโมทเกาะพยาม ซึ่งต้องนั่งสปีดโบท ค่าเรือเที่ยวละ 450 บาท ออกจากท่าเรือเทศบาลปากน้ำระนอง (เมืองนี้เต็มไปด้วยพม่าจริงๆ เพราะลงเรือจากท่านี้ไปเกาะสอง)
วันพรุ่งนี้จะเห็นชายแดนพม่าใกล้นิดเดียวจากคอคอดกระกิ่วกระ
มาเมืองระนองต้องตระเวนดูสถานที่เกี่ยวข้องกับตระกูล ณ ระนอง ตั้งแต่พระราชวังรัตนรังสรรค์ ที่พระ ยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) สร้างถวายในหลวง ร.5 เมื่อคราวเสด็จภาคใต้ เมื่อ พ.ศ. 2433 จวนเจ้าเมืองระนอง และบริเวณค่ายที่พระยาดำรงสุจริต (คอซูเจียง) ต้นตระกูล ณ ระนอง ผู้สร้างเมืองระนอง และก็ถึงเวลาที่จะต้องลาจาก เมืองระนอง
บนเส้นทาง ถนนเพชรเกษม 4 เป็นบริเวณคอคอดกระกิ่วกระ ส่วนแคบที่สุดของประเทศเพียง 50 กม. เท่านั้น
โครงการ ”เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 นี้ มีโรงแรมและร้านอาหารเข้าร่วมยังไม่มาก อาหารกลางวันนี้จึงต้อง ฝากท้องที่ร้านต้นสะเดา ที่อยู่ห่างไกลชุมชนบนหาดทุ่งวัวแล่น จังหวัดชุมพร (อาหารเที่ยงมื้อนี้ มีทั้งยำผักเหลียง ทอดกรอบหลนเนื้อปู สะตอผัดกะปิกับกุ้งและต้มยำกุ้ง)
เส้นทางที่ไปหาดทรายรีนี้เป็นเส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) น่าเสียดายที่ถนน หลายช่วงชำรุดเนื่องจากทะเลกัดเซาะ มาชุมพรคราวนี้ถนนหนทางดีขึ้นกว่า 10 ปี ก่อนมากทีเดียว
ที่หาดทรายรี แวะไหว้หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของเจ้าฟ้า กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
มาภาคใต้ตอนกลางเที่ยวนี้ มีหลายสถานที่ยังปิดอยู่เนื่องจากวิกฤตโควิดที่ผ่านมา รวมทั้งสวนโมกพลาราม (วัดธารน้ำไหล) สุราษฎร์ธานี
เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่องที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อเนื่อง หลังจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว
วันที่ 6 ธันวาคมจึงได้เดินทางลงจังหวัดท่องเที่ยวภาคใต้ตอนบนอีกครั้ง เมื่อลงเครื่องบินสุราษฎร์ธานีในตอนเช้า ก็ได้เดินทางต่อไปยังวัดเจดีย์ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 401 เมื่อแวะ ทานอาหารกลางวันแล้ว เลี้ยวขวาจากทางหลวง 401 เข้าอำเภอดอนสัก เพื่อดูเส้นทางลงเรือที่ท่าซีทรานเฟอร์รี่ กับ ท่าราชาเฟอร์รี่ ที่นักท่องเที่ยวไปเกาะสมุย เกาะพงัน หรือเกาะเต่า (ค่ารถ+คนขับ 450 บาท และผู้โดยสาร อีก 150 บาท) แต่วันนี้เราจะเที่ยวบนบก
จุดหมายปลายทางอยู่ใต้ลงไปที่วัดเจดีย์ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงรีบนัดคุณนนท์ ร้านโกจุย ของเซ่นไหว้ ให้จัดชุดประทัดให้ 1,000,000 นัด เพื่อขอพร "ไอ้ไข่” ศิษย์วัดเจดีย์ ให้งานสัมฤทธิ์ผล
วันนี้เข้าพักที่ขนอมบีชรีสอร์ตแอนด์สปา จองห้อง”บีชฟร้อนท์วิลล่า” ซึ่งทั้งรีสอร์ทมี 4 ห้อง ห้องนอน ขนาดใหญ่ ห้องน้ำใหญ่ มีอ่างจากุซซี และเดรสรูม ลงใต้มาเพื่อจะหนีคน ปรากฏว่าห้องพักจองเต็มหมด ได้ราคาคืน ละ 4,488 บาท (ได้ลด 40% จาก 7,480 บาท)
หาดขนอมนี่ตั้งใจจะมาเที่ยวตั้งแต่มาเที่ยวนครศรีธรรมราชครั้งก่อนเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2562 ซึ่งในครั้ง นั้นถนนเลียบทะเลเชื่อมระหว่างหาดในเพลาและเขาพลายดำกำลังก่อสร้างอยู่ มาครั้งนี้จึงได้ชมทะเลขนอมสมดัง ใจ เพราะอาหารมื้อเย็นที่บลูเทอเรซอยู่ใกล้จุดชมวิวเนินเทวดาสามารถชมวิวอ่าวขนอมได้ครบทุกมุมและในวันรุ่งขึ้นจะไปเที่ยวชมทิวทัศน์ทะเลขนอมบนถนนเลียบทะเลที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว นี่คือเหตุผลที่ต้องกลับมาเก็บ บรรยากาศเส้นทางริเวียร่า นี้อีกครั้ง !
อาหารมื้อเย็นนี้เลิศรสเป็นพิเศษทั้งยำวุ้นเส้นทะเล สเต็กปลาแซลมอน บัดกุเต๋ แกล้มวิวหาดขนอม (หาดทรายขาวเพราะยังเปิดไม่นาน) จ่ายค่าอาหาร 712 บาท (ได้ลด40% จากราคาเต็ม 1,187 บาท)
วันถัดมาก็ยังคงอยู่ในพื้นที่อำเภอขนอม หลังทานกลางวันแล้วจึงเดินทางลงไปทางทิศใต้ตามเส้นทางริเวีย ร่า ถนนตัดข้ามเข้าพลายดำ เลียบทะเลผ่านหาดในเพลา หาดท้องหยี เข้าเขตอุทยานแห่งชาติขนอม-หมู่เกาะทะเล ใต้ (เส้นทางนี้เมื่อคราวมาเมื่อต้นปี 2562 ยังคงก่อสร้างอยู่ ผ่านไม่ได้)
ในบริเวณอุทยานฯมีบ้านพักขนาด 4 ห้องนอน 2 หลัง ห้องละ 1,000 บาท ขนาด 2 ห้องนอน 2 หลัง ได้ วิวทะเลแต่ลงหาดไม่ได้
ถนนสายนี้ไปสุดที่บริเวณหาดพลายดำ อำเภอสิชล
ช่วงเย็นแวะเข้าไปเขื่อนรัชชประภา ซึ่งเป็นเขตต่อเนื่องกับอุทยานแห่งชาติเขาสก อยู่ในเขตอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในพื้นที่บริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีทั้งบ้านพัก แต่ช่วงนี้ยังไม่เปิดให้บริการเนื่องจาก สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คงเป็นเพราะเขาในบริเวณเขื่อนมีทิวทัศน์ที่เหมือนกับเมืองกุ้ยหลินของจีน แม้แต่ร้านอาหารยังใช้ชื่อเดียวกัน ห้องพักเปิดให้เช่าเฉพาะอาคารอพาร์ตเมนต์ ขนาดห้องชุดๆ ละ 2 ห้องนอน พัก ได้ 4 คน คืนละ 2,000 บาท มีห้องนอนเดียวด้วย
กลับจากเขื่อนรัชชประภาเข้าพักในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี วันนี้ได้พักที่โรงแรมติดแม่น้ำตาปี วิวสะพานข้าม แม่น้ำประดับไฟ ที่ข้างโรงแรมจะเป็นท่าเรือไปเกาะเจริญและเกาะเต่าด้วย
ร้านอาหารที่ทานข้าวเย็นวันนี้เป็นร้านตาดินซีฟู้ด 2 ติดแม่น้ำตาปี มีคะน้าปลาเค็ม กรรเชียงปู และต้มยำกุ้ง ของหวานเป็นสละลอยแก้วค่าอาหาร 521 บาท(ได้ลด 4 % จากราคา 868 บาท)
เมืองสุราษฎร์ธานีสมฉายา "เมืองร้อยเกาะ เงาะอรอย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมมะ” ในบริเวณใกล้เคียง กับวัดพระบรมธาตุไชยา ก็จะมีโรงมหรสพทางวิญญาณ (สวนโมกพลาราม) ห่างลงไปทางใต้เข้าเมืองสุราษฎร์ธาน อีก 4 กม.
พระบรมธาตุไชยา นอกจากเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว ยังเป็นหนึ่งใน สามของโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้ได้แก่พระบรมธาตุไชยาเจดีย์พระมหาธาตุวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระพุทธไสยาสน์ในถ้ำคูหาภิมุข บริเวณวัดคูหาภิมุข จังหวัดยะลา
และบนทางหลวงสาย 41 มีร้านอาหารที่ทุกท่านที่เดินทางมาจากชุมพรเพื่อมายังสุราษฎร์ธานีจะต้องแวะทานข้าว ด้วยเหตุที่อยู่ติดถนนใหญ่และร้านใหญ่โตสังเกตเห็นได้ง่ายประกอบกับบนถนนสายนี้ไม่ค่อยมีร้านอาหารให้เลือกทานมากนัก
สำหรับมื้อกลางวันนี้มีผัดกะปิสะตอกุ้ง แกงส้มกุ้งชะอมไข่ ปลาทรายทอดกระเทียม และผัดพริกปลา กระพง ของหวานเป็นไอสครีมช็อคโกแล็ต ค่าอาหาร 360 บาท (ได้ลด 40% จากราคา 600 บาท)
วันนี้จองไฟลต์ 17:30 น ไว้ แต่เที่ยวเสร็จแล้ว จึงรีบไปสนามบินขอเปลี่ยนไฟลต์เป็น 14:55 น. จึงต้องจ่าย เพิ่ม 2,515 บาททั้งยังไม่ได้ hot seat ด้วย เพราะถ้าจะขอนั่ง hot seat ต้องจ่ายเพิ่มกว่า 5,000 บาท แต่ได้กลับ บ้านเร็วขึ้นกว่า 2.5 ชม.
ไปอยู่ใต้ 3 วัน ทานข้าวกลิ่นขมิ้นยังติดจมูกอยู่ ออกจากสนามบินมา จึงแวะซื้ออาหารที่ puff&pie ที่อยู่ ติดกับร้านเจเล้ง กลับไปกินบ้าน
แชร์ :
เขียนความคิดเห็น